แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่ง ไม่จำต้องได้ความชัดแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัยดังเช่นในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ เพียงแต่ประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงก็เป็นการเพียงพอแล้วที่ศาลจะลงโทษจำเลยโดยอาศัยพยานหลักฐานนั้นเพราะเป็นกรณีที่โจทก์เพียงแต่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นเค้ามูลเพื่อประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2543 เวลากลางวันจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 300 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้6.725 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 97, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์ กับเพิ่มโทษจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษแล้วจริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2544 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุก 11 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 97 เป็นโทษจำคุก 19 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 8 ปี 3 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 67 ให้จำคุก 8 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 97 จำคุก 12 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยและยึดได้เมทแอมเฟตามีนจำนวน 300 เม็ด เป็นของกลาง คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า”ในชั้นพิจารณา ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่มีข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยรับสารภาพนั้น กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง” บทบัญญัติดังกล่าวมีความหมายว่า สำหรับความผิดที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามฟ้องศาลก็ยังต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์ให้เป็นที่พอใจก่อนว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามที่ให้การรับสารภาพจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันเสรีภาพของจำเลยในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูงมิให้ต้องรับโทษหนักหรือเกินกว่าความผิดที่ตนเองกระทำ อย่างไรก็ดี พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยไม่จำต้องได้ความชัดแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัยดังเช่นในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ เพียงแต่ประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงก็เป็นการเพียงพอแล้วที่ศาลจะลงโทษจำเลยโดยอาศัยพยานหลักฐานนั้น เพราะเป็นกรณีที่โจทก์เพียงแต่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นเค้ามูลเพื่อประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น สำหรับคดีนี้แม้โจทก์จะมีจ่าสิบตำรวจอนันต์เกิดพุ่ม เจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอปากท่อเพียงปากเดียวมาเบิกความว่า ขณะที่พยานกับพวกออกตรวจพื้นที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบจำเลยขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา เมื่อพบพยานกับพวกจำเลยมีอาการตกใจเป็นพิรุธ พยานจึงเรียกให้จำเลยหยุดรถและขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 300 เม็ดอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย เมื่อสอบถามจำเลยรับว่าซื้อเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวมาจากหญิงไทยไม่ทราบชื่อที่หมู่บ้านหนองบัวหิ่ง ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรีในราคาเม็ดละ 50 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท และกำลังจะนำเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปจำหน่ายให้แก่ผู้เสพติดภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุในราคาเม็ดละ 70 บาท ซึ่งคำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวก็สอดคล้องกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนตามที่จำเลยได้ให้การต่อพันตำรวจโทสมภพ สังข์กรทอง พนักงานสอบสวนตามเอกสารหมาย จ.4 ทั้งจำเลยก็ยังให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นอีกด้วย จึงเชื่อว่าพยานได้เบิกความตามความจริงประกอบกับเมทแอมเฟตามีนของกลางมีจำนวนมากถึง 300 เม็ดและข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้เสพติดเมทแอมเฟตามีนฉะนั้นจึงเชื่อได้ว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามที่จำเลยให้การรับสารภาพจริง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาว่า จำเลยเพียงแต่มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 8 และมาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 15 และมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทนโดยในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มาตรา 15วรรคสาม(2) ที่แก้ไขใหม่บัญญัติความว่า การมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่มีสารแอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์ของแอมเฟตามีนปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375มิลลิกรัม ขึ้นไป ให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แตกต่างจากกฎหมายเดิมในมาตรา 15 วรรคสองที่บัญญัติว่า การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ 20 กรัม ขึ้นไปให้ถือว่าเป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ดังนั้นเงื่อนไขที่เป็นองค์ประกอบความผิดดังกล่าวตามกฎหมายเดิมเป็นคุณมากกว่ากฎหมายที่แก้ไขใหม่ จึงต้องใช้กฎหมายเดิมในส่วนที่เป็นบทความผิดบังคับแก่จำเลยสำหรับคดีนี้เมทแอมเฟตามีนมีประมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 6.725 กรัม ซึ่งไม่เกิน20 กรัม ต้องด้วยมาตรา 66 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษอันมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงห้าล้านบาทแตกต่างจากมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ตามกฎหมายเดิมที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท กรณีโทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่าจึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องรวมทั้งกำหนดโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 66 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) ให้จำคุก 10 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 97 เป็นจำคุก 15 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 7 ปี 6 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์”