คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3549/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ภายในเวลา 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน โดยไม่รอการลงโทษต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 43(4), 157 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้องให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ระหว่างรอการกำหนดโทษให้คุมความประพฤติจำเลยโดยให้จำเลยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 เหลือจำคุก 9 เดือน

จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ภายในเวลา 2 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ ซึ่งถือเป็นการแก้มากก็ตาม แต่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 9 เดือน ไม่เกินหนึ่งปี จึงต้องห้ามไม่ให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นฎีกาดุลพินิจของศาลซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ย่อมต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share