คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734-1735/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าหนี้ในอันที่จะรับชำระหนี้ยึดหรืออายัดยึดถือทรัพย์สินของลูกหนี้ขายทอดตลาดจ่ายเงินตามจำนวนหนี้ในคำพิพากษาและค่าฤชาธรรมเนียมให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาถ้ามีเงินเหลือก็คืนให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเหตุนี้ในการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจกำหนดให้ผู้สู้ราคาวางเงินสดเป็นประกันและจะริบหากผู้สู้ราคาสูงสุดไม่ชำระราคาได้และเมื่อได้ประกาศโฆษณาบอกขายให้ผู้ทอดตลาดทราบก่อนเผดิมการสู้ราคาว่าถ้าผู้ให้ราคาสูงสุดไม่ชำระราคาเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาต่ำคนถัดไปได้แล้วข้อกำหหนดดังกล่าวย่อมใช้บังคับได้หาขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา516ไม่.

ย่อยาว

กรณี สืบเนื่อง มา จาก ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สาม ร่วมกันหรือ แทน กัน ชำระเงิน ตาม สัญญา เบิกเงิน เกินบัญชี จำนวน 3,353,698.60 บาท พร้อม ดอกเบี้ย และ ชำระ เงิน ตาม ตั๋วสัญญา ใช้เงิน จำนวน1,400,000 บาท พร้อม ดอกเบี้ย หาก ไม่ ชำระ ให้ ยึด ทรัพย์ จำนอง ออกขาย ทอดตลาด เอา เงิน ชำระ หนี้ จน ครบ จำเลย ทั้ง สาม อุทธรณ์ และ ขอทุเลา การ บังคับคดี ศาลอุทธรณ์ มี คำสั่ง ให้ ศาลชั้นต้น ตี ราคาทรัพย์สิน ที่ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 จำนอง ไว้ กับ โจทก์ ถ้า ไม่ พอ กับเงินต้น และ ดอกเบี้ย ที่ ต้อง ชำระ ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น เป็น เวลา 2 ปี ก็ ให้ หา มา เพิ่ม มิฉะนั้น ให้ ยก คำร้อง ศาลชั้นต้น ตีราคาทรัพย์ ที่ จำนอง แล้ว ไม่ พอ ชำระ ตาม คำพิพากษา จึง ให้ จำเลย ทั้งสาม หา หลักประกัน มา เพิ่ม ใน กำหนด จำเลย ทั้ง สาม ไม่ ปฏิบัติ ตามศาลชั้นต้น จึง ให้ ยก คำร้อง ขอ ทุเลา การบังคับคดี โจทก์ ขอ ให้ ออกหมาย บังคับคดี และ ดำเนินการ บังคับคดี ยึดทรัพย์ จำนอง ออก ขายทอดตลาด มี ผู้ ให้ ราคา สูงสุด ศาลชั้นต้น อนุญาต ให้ ขาย แต่ ผู้ให้ราคา สูงสุด ไม่ ชำระ ราคา ศาลชั้นต้น โดย เจ้าพนักงาน บังคับคดี จึงกำหนด เงื่อนไข การ ขายทอดตลาด ครั้ง ต่อไป ว่า ให้ ผู้ จะ สู้ราคา ต้องนำ เงินสด มา วาง จำนวน 100,000 บาท ถ้า ผู้สู้ ราคา สูงสุด ไม่ ใช้ราคา ตาม เงื่อนไข ศาล จะ สั่ง ริบ และ เจ้าพนักงาน บังคับคดี อาจ ขอให้ ศาล สั่ง อนุญาต ให้ ขาย แก่ ผู้สู้ ราคา ต่ำ คน ถัดไป จำเลยทั้ง สาม ยื่น คำร้อง คัดค้าน เงื่อนไข ดังกล่าว ศาลชั้นต้น สั่ง ยกคำร้อง
จำเลย ทั้ง สาม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ทั้ง สาม ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ปัญหา ข้อกฎหมาย ว่า ที่ จำเลย ทั้ง สาม ฎีกา ว่าเงื่อนไข การ ขายทอดตลาด ที่ ศาลชั้นต้น กำหนด ระบุ ให้ ผู้ ประสงค์เข้า สู้ราคา ต้อง วาง เงินสด คนละ 100,000 บาท ถ้า ผู้ให้ ราคา สูงสุดไม่ ชำระ ราคา ศาล จะ สั่ง ริบ และ เจ้าพนักงาน บังคับคดี อาจ ขอ ให้ศาล สั่ง อนุญาต ให้ ขาย แก่ ผู้สู้ ราคา ต่ำ คน ถัด ไป นั้น เป็นเงื่อนไข ที่ ขัด ต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ศาลชั้นต้น ไม่ มีสิทธิ ริบ เงิน ที่ วาง ประกัน ศาลฎีกา เห็น ว่า เจ้าพนักงาน บังคับคดีมี อำนาจ ใน ฐานะ เป็น ผู้แทน เจ้าหนี้ ตาม คำพิพากษา ใน อัน ที่ จะรับ ชำระหนี้ ยึด หรือ อายัด และ ยึดถือ ทรัพย์สิน ของ ลูกหนี้ ตามคำพิพากษา ไว้ และ มี อำนาจ ที่ จะ เอา ทรัพย์สิน นั้น ออก ขายทอดตลาด เมื่อ ได้ จัดการ จำหน่าย ทรัพย์สิน แล้ว และ ได้ หัก ค่าฤชา ธรรมเนียมไว้ แล้ว เจ้าพนักงาน บังคับคดี มี อำนาจ จ่าย เงิน ตาม จำนวน หนี้ ในคำพิพากษา และ ค่าฤชา ธรรมเนียม ใน การ ฟ้องร้อง ให้ แก่ เจ้าหนี้ ตามคำพิพากษา ถ้า มี เงิน เหลือ อยู่ เจ้าพนักงาน บังคับคดี มี อำนาจ จ่ายส่วนที่เหลือ นั้น ให้ แก่ ลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา เหตุนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ ทอดตลาด อาจ กำหนด ข้อสัญญา หรือ เงื่อนไข ตาม คำโฆษณาบอก ขาย ให้ ผู้ สู้ราคา ทราบ ก่อน เผดิม การ สู้ราคา ทรัพย์สิน เฉพาะราย ไป ก็ ได้ ข้อสัญญา ที่ ให้ วาง เงินสด เป็น ประกัน จึง ชอบ แล้วส่วน ข้อสัญญา ที่ ว่า ‘ถ้า ผู้ให้ ราคา สูงสุด ไม่ ชำระ ราคาเจ้าพนักงาน บังคับคดี อาจ ขอ ให้ ศาล สั่ง อนุญาต ให้ ขาย แก่ ผู้สู้ราคา ต่ำ คน ถัด ไป’ เป็น ข้อสัญญา เฉพาะราย ที่ กำหนด ขึ้น เพื่อประโยชน์ แก่ การ ขายทอดตลาด เมื่อ ได้ ประกาศ โฆษณา บอก ขาย ให้ ผู้ทอดตลาด ทราบ ก่อน เผดิม การ สู้ราคา แล้ว หา ขัด ต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516 ไม่
พิพากษา ยืน.

Share