คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3521/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจ้าง โจทก์ก่อสร้างตึกแถว 2 ชั้น จำนวน 4 คูหา โดยโจทก์จำเลยตกลงกันให้ชั้นลอยมีความยาวห้องละ 8 เมตร กำหนดค่าจ้างงานงวดที่ 2 คือหล่อเสาและเทพื้นชั้นลอยเป็นเงิน 120,000บาท แต่โจทก์เขียน แบบแปลน และก่อสร้างเทพื้นชั้นลอยมีความยาวเพียงห้องละ 5 เมตร ผิดไปจากข้อตกลง โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาเมื่อได้เลิกสัญญากัน ส่วนการงานอันโจทก์ได้กระทำให้โจทก์มีสิทธิได้รับชดใช้คืน แต่งานงวดที่ 2 ดังกล่าว โจทก์จำเลยมีหลักการคิดค่าจ้างแตกต่างกัน คือ โจทก์คิดค่าจ้างหล่อเสาและเทพื้นชั้นลอยมีความยาวเพียงห้องละ 5 เมตร แต่จำเลยคิดค่าจ้างหล่อเสาและเทพื้นชั้นลอยมีความยาวห้องละ 8 เมตร ดังนั้นการคิดราคาชั้นลอยที่โจทก์ได้กระทำไปจึงไม่อาจกระทำได้ ต้องคิดค่าชั้นลอยที่โจทก์ก่อสร้างขาดไปนั้นเป็นเงินเท่าใดแล้วนำไปหักออกจากเงินค่าจ้างงานงวดที่ 2 จำนวน 120,000 บาท เหลือเท่าใดจึงจะเป็นค่าจ้างสำหรับงานที่ได้กระทำไปแล้วในงวดนั้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างตึกแถว ๒ ชั้น จำนวน ๔ คูหา เป็นเงิน ๘๘๐,๐๐๐ บาท โดยโจทก์เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์การก่อสร้าง กำหนดจ่ายค่าจ้างเป็นงวด งานที่ ๒ ได้แก่หล่อเสาและเทพื้นชั้นลอย โจทก์ก่อนสร้างเสร็จแล้ว จำเลยจะต้องจ่ายค่าจ้างงวดที่ ๒ เป็นเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท โจทก์ขอรับค่าจ้างดังกล่าวแต่จำเลยไม่ยอมจ่ายโจทก์ทวงถาม จำเลยเพิกเฉยทำให้โจทก์เสียหายไม่ได้รับเงินค่าจ้างงานงวดที่ ๒ ค่าแรงคนงาน ค่าขาดประโยชน์ที่ไม่อาจรับงานอื่นได้ ค่าวัสดุที่ซื้อมาเสื่อมราคา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๕๒,๐๐๐ บาท ขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า เหตุที่ไม่จ่ายว่าจ้างให้โจทก์เพราะโจทก์ทำงานไม่เสร็จตามสัญญาโดยโจทก์สัญญาว่าจะทำชั้นลอยให้มีความยาว ๒ เมตร แต่โจทก์กลับเขียนแปลนและก่อสร้างมีความยาวเพียง ๕ เมตร จำเลยจึงไม่จ่ายค่าจ้างให้โจทก์ โจทก์ไม่เสียหายเท่าที่ฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินโจทก์ ๔๑,๒๔๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยเขียนแบบแปลนและก่อสร้างมีความยาวเพียงห้อง ๕ เมตร ผิดไปจากที่ตกลงกับจำเลยให้มีความยาวห้องละ ๘ เมตร แล้ววินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาที่ว่า โจทก์มีสิทธิที่จะเรียกค่าจ้างสำหรับงานที่ทำไปแล้วในงวดที่ ๒ ได้หรือไม่ เพียงใดนั้น เห็นว่า ส่วนการงานอันโจทก์ได้กระทำให้นั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับการชดใช้ดิน สำหรับงานงวดที่ ๒ ซึ่งได้แก่การหล่อเสาและการเทพื้นชั้นลอยเป็นค่าจ้าง ๑๒๐,๐๐๐ บาท นั้น ทั้งสองฝ่ายมีหลักการคิดแตกต่างกัน กล่าวคือ โจทก์คิดความยาวของชั้นลอยเพียง ๕ เมตรในแต่ละห้องส่วนจำเลยคิดความยาว ๘ เมตรในแต่ละห้อง เป็นเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท เท่ากันดังนั้นการคิดราคาชั้นลอยที่โจทก์ได้กระทำไปจึงไม่อาจกระทำได้ ต้องคิดว่าสำหรับชั้นลอยที่โจทก์ได้ก่อสร้างขาดไปนั้นเป็นเงินเท่าใดแล้ว นำไปหักจากจำนวนค่าจ้าง เหลือเงินเท่าใดจึงจะเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระเป็นค่าจ้างสำหรับงานที่ได้ทำไปแล้วในงวดที่ ๒
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าก่อสร้างสำหรับงานงวดที่ ๒ เป็นเงิน ๒๔,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย.

Share