คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เครื่องวัดไฟฟ้าที่โจทก์ติดตั้งให้จำเลยชำรุดเองโดยจานวัดหมุนช้าทำให้จำเลยชำระเงินน้อยกว่าความเป็นจริงโจทก์ตรวจพบเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2526 หลังจากติดตั้งและเริ่มเก็บเงินเป็นเวลาเกือบ 5 ปี และโจทก์ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าให้ใหม่ยอมให้จำเลยใช้เครื่องเดิมจนถึงเดือนตุลาคม 2526 ทั้งโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเครื่องวัดไฟฟ้าชำรุดตั้งแต่เมื่อใด ดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าไฟฟ้าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2526 ย้อนหลังไปจนถึงวันที่15 พฤษภาคม 2521 ซึ่งเป็นวันเรียกเก็บค่าไฟฟ้าครั้งแรกของจากจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเลขที่ดับบลิว พี/111-25977 ให้แก่จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 3 เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของโจทก์เพื่อประกอบกิจการของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2526 จำเลยทั้งสามผิดนัดไม่ชำระเงินค่าไฟฟ้าให้โจทก์จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2527 โจทก์จึงงดจ่ายกระแสไฟฟ้าคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ค้าชำระจำนวน 112,311.79 บาทกับค่าไฟฟ้าย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2521 ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2526 เป็นเงิน 231,797.15 บาท เนื่องจากโจทก์ตรวจพบว่าเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า เลขที่ดับบลิว ดี/111-25977 ชำรุดทำให้การแสดงค่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าไม่ถูกต้องตรงกับจำนวนหน่วยของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ไปจริง มีผลทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับประโยชน์ชำระค่าไฟฟ้าน้อยกว่าจำนวนที่ถูกต้องคิดเป็นเงิน 231,797.15 บาทจำเลยทั้งสามจึงต้องร่วมกันชำระค่าไฟฟ้าให้แก่โจทก์รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 344,108.94 บาท โจทก์ทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระเงินให้โจทก์ แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉยโจทก์จึงได้หักเงินจากพันธบัตรค้ำประกันการผิดนัดชำระค่าไฟฟ้าจำนวน 5,000 บาท จึงเหลือเงินที่จำเลยทั้งสามต้องชำระให้โจทก์จำนวน 339,108.94 บาท ให้จำเลยทั้งสามชำระเงินจำนวน 339,108.94 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 107,311.79 บาทพร้อมดอกเบี้ย คำขอนอกจากนี้ให้ยก จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วได้ความจากพยานโจทก์ว่าพนักงานของโจทก์ได้ตรวจพบเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2526 ว่าเครื่องวัดไฟฟ้าที่ติดตั้งให้จำเลยที่ 1 ชำรุดจานวัดหมุนช้าผิดปกติ ทำให้จำเลยผู้ใช้ไฟฟ้าชำระเงินน้อยกว่าความเป็นจริงจะต้องคิดค่าไฟฟ้าเพิ่มย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2521ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2526 เป็นจำนวน 231,797.15 บาท และได้ความอีกว่า เครื่องวัดไฟฟ้าดังกล่าวชำรุดเองโดยฝ่ายจำเลยไม่ได้กระทำการใด ๆ กับเครื่องวัดไฟฟ้าดังกล่าวนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อเครื่องวัดไฟฟ้าที่โจทก์ติดตั้งให้จำเลยเกิดชำรุดขึ้นเองมิใช่เป็นการกระทำของจำเลยโจทก์เพิ่งตรวจพบเมื่อวันที่20 เมษายน 2526 หลังจากติดตั้งและเริ่มเก็บเงินเป็นเวลาเกือบ5 ปี หลังจากตรวจพบความชำรุดแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าใหม่และยอมให้จำเลยใช้เครื่องเดิมตลอดมาจนถึงเดือนตุลาคม 2526 ตามปกติแล้ว เครื่องวัดไฟฟ้าที่โจทก์นำมาติดตั้งให้แก่ผู้ขอใช้ไฟฟ้าของโจทก์จะเป็นเครื่องใหม่ที่ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่าใช้ได้ ไม่ชำรุด เมื่อโจทก์นำเครื่องวัดไฟฟ้าดังกล่าวมาติดตั้งให้จำเลยน่าเชื่อว่าเป็นเครื่องที่ไม่ชำรุด ทั้งจำเลยก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเครื่องวัดไฟฟ้าดังกล่าวชำรุด และโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเครื่องวัดไฟฟ้านี้ชำรุดมาตั้งแต่เมื่อใด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าไฟฟ้าเพิ่มนับแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2526 ย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2521 ซึ่งเป็นวันเรียกเก็บค่าไฟฟ้าครั้งแรกจากจำเลยทั้งสามได้ แม้โจทก์จะมีเอกสารหมาย จ.16 มาแสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้ลงชื่อยอมชำระให้โจทก์ ศาลฎีกาได้ตรวจดูเอกสารดังกล่าวแล้วไม่อาจทราบได้ว่าเป็นเครื่องวัดไฟฟ้าเครื่องเดียวกับที่โจทก์ติดตั้งให้จำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะเลขไม่ตรงกัน ข้อความที่ว่า “ยินยอมชำระค่าไฟฟ้าตามจำนวนเดือนนี้ต่อไป” ก็ไม่ชัดเจนว่า จำเลยที่ 3ยอมชำระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มย้อนหลังให้โจทก์ ข้อความดังกล่าวหมายความว่าจำเลยยอมชำระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2527 ที่ทำเอกสารดังกล่าวต่อไปก็ได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกคำขอส่วนนี้ของโจทก์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share