คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3518/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องว่าในการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดและโจทก์กระทำการโดยไม่สุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยซึ่งเป็นการกล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และมาตรา 296 วรรคสอง โดยจำเลยจะต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ปรากฏว่าจำเลยยื่นคำร้องเมื่อพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้านเพื่อให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้การที่ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยไปนั้นก็เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยผิดหลงและเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้โจทก์จะไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยกอุทธรณ์ของจำเลยนั้นเป็นการไม่ชอบ เพราะอุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามอุทธรณ์แต่อย่างใด

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดตามบัญชีเดินสะพัดและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน821,560.55 บาท พร้อมดอกเบี้ย โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์จำนองที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตในการประมูลซื้อทรัพย์ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริงทำให้จำเลยได้รับความเสียหายขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดใหม่
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า โจทก์ซื้อทรัพย์ดังกล่าวโดยสุจริตในราคาที่สูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นมิได้หยิบยกเรื่องกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง ขึ้นวินิจฉัย อีกทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ยกข้อต่อสู้ดังกล่าวขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงยกขึ้นวินิจฉัยไม่ได้นั้น เห็นว่า คดีนี้จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องว่าในการขายทอดตลาดนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดและโจทก์ได้กระทำไปโดยไม่สุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยซึ่งเป็นการกล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กรณีจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และมาตรา 296 วรรคสอง โดยจำเลยจะต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ปรากฏว่าจำเลยยื่นคำร้องเมื่อพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้านเพื่อให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ การที่ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยไปนั้น ก็เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยผิดหลง และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแม้โจทก์จะไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้นเป็นการไม่ชอบเพราะว่าอุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามอุทธรณ์แต่อย่างใด ฎีกาข้ออื่นของจำเลยไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไป”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share