คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3509/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตึกแถวพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทั้ง 14 คน จำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถวดังกล่าวและไม่ชำระค่าเช่า โจทก์ที่1 ซึ่งเป็น เจ้าของรวมคนหนึ่งย่อมมีสิทธิบอกเลิกการเช่าโดยมอบอำนาจ ให้ทนายความกระทำแทนได้ เพราะเป็นการจัดการอันเป็นการทำการเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1358 วรรคสอง เมื่อโจทก์ที่ 1 มีสิทธิบอกเลิกการเช่าซึ่งถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว สัญญาเช่าจึงเป็นอันระงับ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถวพิพาทของโจทก์และไม่ชำระค่าเช่าโจทก์ได้มอบให้ทนายความทวงถามและบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากตึกแถวพิพาท และให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าไปแล้ว และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้มีกรรมสิทธิในตึกแถวพิพาท และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 14 มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ทั้ง 14 คนไม่เคยบอกเลิกการเช่ากับจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวพิพาทให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายว่าตึกแถวพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทั้ง 14 คน การที่โจทก์ที่ 1 ผู้เดียวมอบอำนาจให้ทนายความบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยจะถือว่าเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่เห็นว่าโจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 14 เป็นเจ้าของรวมในตึกแถวพิพาทซึ่งเป็นมรดกตกทอดโดยพินัยกรรม จำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถวพิพาทจากเจ้ามรดกและไม่ชำระค่าเช่า โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็น เจ้าของรวมคนหนึ่งย่อมมีสิทธิบอกเลิกการเช่าโดยมอบอำนาจให้ทนายความกระทำแทนได้ เพราะเป็นการจัดการอันเป็นการทำการเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งกระทำได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1358 วรรค 2 ฉะนั้นเมื่อโจทก์ที่ 1 มีสิทธิบอกเลิกการเช่าซึ่งถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว สัญญาเช่าจึงเป็นอันระงับ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

พิพากษายืน

Share