คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2513

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อประกันหนี้เงินยืม ผู้เสียหายกับจำเลยมิได้ประสงค์จะให้ออกเช็คเป็นการชำระหนี้ โดยจำเลยจะชำระเงินให้ผู้เสียหายเองไม่ต้องเอาเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร ดังนี้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้โดยลงวันที่ล่วงหน้า โดยจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ผู้เสียหายนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคารในวันที่ลงในเช็ค ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้นเพราะจำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะให้ใช้เงินได้ตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อเช็คพิพาทจำเลยออกให้ถึงกำหนดชำระเงิน ผู้เสียหายได้นำไปขอรับเงินจากธนาคาร ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินอ้างว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่าย ผู้เสียหายมิได้แจ้งความดำเนินคดีกับจำเลย แต่ผู้เสียหายกลับติดต่อทวงถามให้จำเลยชำระหนี้อีกกว่า 10 ครั้ง จนถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2511 จำเลยได้ชำระเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1,000 บาทกับให้ค่าผลประโยชน์อีก100 บาท ที่เหลืออีก 4,000 บาท จำเลยจะชำระในวันที่ 1 มิถุนายน 2511 ข้อตกลงผ่อนเวลาชำระหนี้ดังกล่าวนี้ผู้เสียหายและจำเลยได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้เสียหายยังคงยึดถือเช็คฉบับเดิมไว้ไม่ได้ให้จำเลยออกเช็คฉบับใหม่ ดังนั้นจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องใช้ให้แก่ผู้เสียหายก็ดี วันถึงกำหนดชำระหนี้ก็ดี ได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในเช็คนั้นแล้ว ผู้เสียหายรับว่าจำเลยได้พูดว่าจะให้ดอกเบี้ยเงินที่ยืมไปและผู้เสียหายได้รับเงิน 100 บาทนอกเหนือจากจำนวนเงิน 1,000 บาทที่จำเลยผ่อนชำระให้แต่ผู้เสียหายเลี่ยงเสียว่าจำเลยให้เป็นค่าป่วยการติดตามทวงถาม ซึ่งศาลฎีกาเชื่อว่าเป็นดอกเบี้ยตามที่จำเลยตกลงคิดให้แก่ผู้เสียหายมากกว่า หลังจากที่จำเลยได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียหายแล้ว ถ้าจำเลยยังผ่อนชำระเรื่อย ๆ มาพร้อมกับให้ดอกเบี้ย ก็น่าเชื่อว่าผู้เสียหายคงจะไม่นำเช็คไปขอรับเงินที่ธนาคารอีกและคงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับจำเลยเป็นแน่ พฤติการณ์ดังนี้จึงสมกับข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าจำเลยออกเช็คให้แก่ผู้เสียหายเพื่อประกันหนี้เงินที่ยืมเท่านั้น มิได้ประสงค์จะออกเช็คให้เป็นการชำระหนี้ โจทก์จำเลยจะชำระเงินให้ผู้เสียหายเองไม่ต้องเอาเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร เนื่องจากการกู้ยืมเงินมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ คำให้การของจำเลยมีเหตุผลฟังเป็นจริงได้จำเลยออกเช็คให้ผู้เสียหายโดยเป็นที่เข้าใจกันว่าไม่ได้เห็นเป็นการชำระหนี้ ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คที่โจทก์ฟ้องตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 275-276/2506 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก โจทก์ นายบุ้นฮุย แซ่โล้ว จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์”

Share