คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีหาว่า ขนย้ายข้าวเพื่อออกนอกเขตต์จังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง พาหนะที่ใช้ในการบันทุกข้าว เมื่อปรากฎว่ามิใช่เป็นของผู้กระทำผิด ความจริงเป็นของผู้อื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น ต้องคืนให้แก่เจ้าของ.

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลพิพากษาปรับจำเลยฐานพยายามขนย้ายข้าวสารออกนอกเขตต์จังหวัด และริบเรือของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนเรือของกลางอ้างว่า นายกิมสูนเช่าเรือของผู้ร้องไปทำการค้าขาย แล้วนายกิมสูนได้นำเรือไปรับจ้างจำเลยขนย้ายข้าวออกนอกเขตต์ โดยผู้ร้องมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว สั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนเรือของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตต์จังหวัดต้องตามมาตรา ๑๓ อนุมาตรา ๒ ซึ่งตามอนุมาตรานี้ ไม่มีคำว่า โดยมิต้องคำนึงว่า จะเป็นของบุคคลใด และไม่มีคำว่า เจ้าของจะได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าเรือของกลางมิใช่เป็นของผู้กระทำผิด ความจริงเป็นของผู้ร้อง ๆ มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย
พิพากษายืน.

Share