คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 โดยมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และอ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 นั้น เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานโทรมหญิงด้วย เมื่อผู้เสียหายกับจำเลยตกลงยอมความกัน คดีย่อมระงับไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2505 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยทั้งสองกับบุคคลอื่นอีกหลายคนได้บังอาจสมคบร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวอ้อย พานภิรมย์ ซึ่งมิใช่ภรรยาของจำเลยโดยจำเลยกับพวกใช้กำลังกายฉุดคร่าบังคับขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนางสาวอ้อยและนางสาวอ้อยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวอ้อยสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้งเหตุเกิดที่ตำบลลุมพินี อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276

จำเลยปฏิเสธ

ต่อมาโจทก์จำเลยและนางสาวอ้อยผู้เสียหายมาศาล จำเลยทั้งสองตกลงใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายรับไป 2,100 บาทต่อหน้าศาลผู้เสียหายแถลงว่าไม่ติดใจเอาความแก่จำเลย โจทก์แถลงว่าไม่คัดค้านและว่าคดียอมความกันได้ตามกฎหมาย ศาลเห็นว่าคดียอมความกันได้เมื่อผู้เสียหายกับจำเลยตกลงยอมความกัน คดีเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความปล่อยจำเลยพ้นข้อหาไป

โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการโทรมหญิง จึงยอมความกันไม่ได้ ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาสั่งให้ดำเนินการพิจารณาใหม่

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์บรรยายแต่เพียงว่า จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังกายฉุดคร่าบังคับขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนางสาวอ้อย และจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวอ้อยจนสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้งเท่านั้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา คำบรรยายฟ้องของโจทก์ชัดแจ้งและมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่าการกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง อ้างฎีกาที่ 1685/2503

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกับบุคคลอื่นได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฉุดคร่านางสาวอ้อยและจำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวอ้อยจนสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้งเท่านั้น โจทก์มิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และโจทก์มีคำขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 อันเป็นบทที่ว่าด้วยการข่มขืนกระทำชำเราธรรมดาเท่านั้น ส่วนการกระทำผิดอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงนั้นได้บัญญัติไว้ในมาตรา 286 ฟ้องโจทก์จึงมิประสงค์ให้ลงโทษฐานโทรมหญิง ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ 1685/2503 นั้น ตามคำฟ้องได้บรรยายรายละเอียดไว้แตกต่างกับคดีนี้และมีข้อความชัดเจนว่าเป็นการโทรมหญิง และได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา281 ด้วย ทั้งข้อเท็จจริงที่ปรากฎตามทางพิจารณาก็แตกต่างกับคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ยกอุทธรณ์โจทก์นั้นชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share