คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นฎีกานั้นจะต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขออาศัยที่ดินของโจทก์ซึ่งติดกับที่ดินของจำเลย ต่อมาจำเลยได้รับโอนทะเบียนโฉนดที่ดินของจำเลยจากผู้ขาย จึงปรากฏว่าที่ดินของโจทก์ที่ให้จำเลยอาศัยอยู่ในเขตต์โฉนดของจำเลยที่รับโอนมาจากผู้ขายโจทก์ จึงฟ้องขอให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดของจำเลยให้โจทก์ ให้รื้อโรงครัวที่จำเลยอยู่อาศัยปลูกไว้ไป หรือให้จำเลยรับซื้อที่ดินส่วนที่ขออาศัยปลูกโรงครัว
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยซื้อที่ดินโดนสุจริต ค่าตอบแทน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดให้โจทก์ และให้จำเลยรื้อโรงครัวที่รุกล้ำเข้ามาเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย ฉะเพาะข้อกฏหมายมีความว่า ศาลชั้นต้นสั่งไม่ให้โจทก์สืบพะยานในข้อที่ว่าผู้ขายได้ขายที่ดินเพียงบางส่วนของเนื้อที่ในโฉนดให้แก่จำเลย เพราะเป็นการสืบแก้ไขเอกสารแล้ว ศาลกลับไปรับฟังการนำสืบของโจทก์ในประเด็นข้อนี้อีก เป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่า ในฎีกาข้อกฏหมายของจำเลย ๆ เพิ่งยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกา จึงไม่รับวินิจฉัยให้ ส่วนข้อเท็จจริงศาสชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา จึงไม่มีข้อวินิจฉัย ให้ยกฎีกาจำเลย

Share