คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3464/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 มาตรา 4 โรงแรม หมายความว่า สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ดังนี้ สถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้น ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 674 จะต้องเป็นสถานที่ซึ่งให้บริการทำนองเดียวกันกับโรงแรมหรือโฮเต็ล คือเป็นสถานที่ซึ่งมีลักษณะให้บริการเป็นที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใด สำหรับอพาร์ตเม้นท์ของจำเลยนั้น ศ. เช่าห้องพักของจำเลยสำหรับอยู่อาศัยและเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสถานศึกษา แม้จะมีบุคคลอื่นเช่าห้องพักดังกล่าวในลักษณะเดียวกัน แต่เห็นได้ว่าการให้บริการห้องพักของจำเลยมีลักษณะเป็นการให้เช่าพักอยู่อาศัยโดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนขึ้นไปเท่านั้น มิใช่เป็นการให้เช่าบริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลใด ดังนี้ การประกอบธุรกิจของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เข้าลักษณะสถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้น กล่าวคือ เช่นดังเจ้าสำนักโรงแรมหรือโฮเต็ลที่จะนำบทบัญญัติวิธีเฉพาะสำหรับเจ้าสำนักโรงแรมตาม ป.พ.พ. มาใช้บังคับให้จำเลยต้องรับผิดตามคำฟ้องของโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายทดแทนเป็นเงิน 730,138 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 714,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน ชฉ 20 กรุงเทพมหานคร ไว้จากนางสาวฐิติมา ประเภทชดใช้ความเสียหายโดยสิ้นเชิง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2552 นายศรัณย์ ผู้เช่าห้องในอพาร์ตเมนต์ของจำเลย นำรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไปจอดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของอพาร์ตเมนต์ ต่อมาในเวลากลางคืนฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมขังลานจอดรถเป็นเหตุให้รถยนต์คันดังกล่าวเสียหายทั้งคัน โจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่นางสาวฐิติมาผู้เอาประกันภัยไปแล้ว
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามคำฟ้องหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาข้อแรกว่า การประกอบธุรกิจให้เช่าห้องพักของจำเลยเข้าลักษณะสถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้นกล่าวคือเช่นดังเจ้าสำนักโรงแรมหรือโฮเต็ลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดแก่รถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยซึ่งนายศรัณย์ผู้เช่าห้องในอพาร์ตเมนต์ของจำเลยได้พามานั้น เห็นว่า โรงแรม หมายความว่า สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ เพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 มาตรา 4 ดังนั้นคำว่าสถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้น ต้องเป็นการให้บริการทำนองเดียวกัน กล่าวคือต้องเป็นสถานที่ซึ่งมีลักษณะให้บริการเป็นที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใด เมื่อได้ความว่านายศรัณย์เช่าห้องพักในอพาร์ตเมนต์ของจำเลยสำหรับอยู่อาศัยเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยรังสิต เนื่องจากนายศรัณย์มีภูมิลำเนาอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษาดังกล่าวมาก โดยได้ทำสัญญาเช่าพักกับจำเลยติดต่อกันมาถึงสองปีก่อนเกิดเหตุ ดังนั้น แม้จะมีบุคคลอื่นเช่าห้องพักในอพาร์ตเมนต์ของจำเลยในลักษณะเดียวกันด้วยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าการให้บริการห้องพักของจำเลยเป็นลักษณะการให้เช่าพักอยู่อาศัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนขึ้นไปเท่านั้นมิใช่เป็นการให้เช่าบริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใด การประกอบธุรกิจของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เข้าลักษณะสถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้น กล่าวคือ เช่นดังเจ้าสำนักโรงแรมหรือโฮเต็ลที่จะนำบทบัญญัติวิธีเฉพาะสำหรับเจ้าสำนักโรงแรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับให้จำเลยต้องรับผิดตามคำฟ้องต่อโจทก์ได้ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share