แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลปกครองรักษาไว้โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการ และเอกสารสิทธิทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชน จำเลยได้ลักลอบเอาเอกสารซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาออกจากตู้เก็บเอกสารไปบางฉบับ แล้วนำไปให้ ส. ทนายความตรวจดูนอกสถานที่ราชการ และจำเลยได้ปลอมเอกสารนั้นเช่นนี้ เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดรวมทั้งแก่ทางราชการด้วยแล้ว จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย (นอกจากจะผิดตามมาตรา 158 และมาตรา 266 แล้ว)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องใจความว่า จำเลยทั้งสองกล่าวคือ
(ก) ขณะกระทำผิด จำเลยที่ ๑ รับราชการตำแหน่งเสมียนพนักงานประจำแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ มีหน้าที่ร่วมกับเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และมีหน้าที่ร่วมกันกับข้าราชการประจำแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่คนอื่น ๆ ในการดูแลปกครองรักษาไว้ โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการและเอกสารสิทธิซึ่งเป็นเอกสารราชการทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชนซึ่งเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานที่แผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ จำเลยที่ ๑ ได้บังอาจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตโดยจำเลยที่ ๑ ได้ร่วมกับจำเลยที่ ๒ นางทอง พระเทพ และนางแก้ว มาซา บังอาจลักลอบเอาไปเสียซึ่งเอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินซึ่งเป็นเอกสารอันเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่กระทำขึ้นเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมไถ่ถอนการขายฝากที่ดินและการขายฝากที่ดินและเอกสารดังกล่าวได้เก็บรักษาไว้ในตู้เก็บเอกสารที่แผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ ๑. ดูแลรักษาปกครองไว้โดยปลอดภัย จำเลยทั้งสองกับพวกดังกล่าวแล้วได้บังอาจร่วมกันลักลอบนำเอาเอกสารทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าวออกไปจากตู้เก็บเอกสารของแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ เพื่อนำเอาไปร่วมกันขูดลบปลอมแปลงลายพิมพ์นิ้วมือของนางทอง พระเทพซึ่งได้พิมพ์ไว้ในเอกสารนั้น ๆ และเพื่อขูดปลอมแปลงลายเซ็นชื่อของนางแก้วซึ่งได้เซ็นชื่อไว้ในเอกสารนั้น ๆ เป็นการกระทำให้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการเสียหายและไร้ประโยชน์ในการที่จะถูกนายเกรียงศักดิ์ สุพรรณทัศน์ นำไปอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานต่อไปได้ การกระทำของจำเลยที่ ๑ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานเป็นการปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่และนายเกรียงศักดิ์
(ข) ระหว่างวันเวลาดังกล่าว เมื่อจำเลยทั้งสองกับนางทอง พระเทพ และนางแก้วได้ร่วมกันลักลอบนำเอาเอกสารออกไปจากตู้เก็บเอกสารของแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่แล้ว จำเลยทั้งสองกับพวกได้บังอาจร่วมกันขูดลบปลอมแปลงบางส่วนของเอกสารทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นเอกสารอันแท้จริง ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ และ ที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗, ๑๕๘, ๑๕๙, ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๖, ๘๓, ๘๖, ๙๐ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ และลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๘๓ อีกโสดหนึ่งด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ ๑ ขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง ขอถอนคำให้การที่ได้ปฏิเสธไว้เดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗, ๒๖๔ ประกอบ ๒๖๖ และ ๘๖ ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ ให้จำคุกไว้มีกำหนด ๕ ปี แต่คำรับสารภาพของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีมากมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี ๖ เดือน จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๘๓ ให้จำคุกไว้คนละ ๔ เดือน ส่วนความผิดนอกจากที่กล่าวมานี้ให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยที่ ๑ ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ แต่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๘, ๒๖๖ ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๒๖ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๐ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ สองปี จำเลยที่ ๑ รับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นความผิดตามมาตรา ๑๕๗ ด้วย กรณีของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท คือผิดมาตรา ๑๕๘ ซึ่งเป็นบทความผิดต่อการกระทำโดยเฉพาะของจำเลยและผิดตามมาตรา ๑๕๗ ซึ่งเป็นบทบัญญัติต่อการกระทำอย่างกว้างอีกด้วย ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๕๗ อีกบทหนึ่ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีหน้าที่ดูแลปกครองรักษาไว้โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการ และเอกสารสิทธิทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชน จำเลยที่ ๑ ได้ลักลอบเอาเอกสารซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาออกจากตู้เก็บเอกสารไปบางฉบับ แล้วนำไปให้นายสังข์ทนายความตรวจดูนอกสถานที่ราชการ และจำเลยที่ ๑ ได้ปลอมเอกสารนั้น เช่นนี้เห็นได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งรวมทั้งแก่ทางราชการด้วยแล้ว การกระทำของจำเลยที่ ๑ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ด้วย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์