แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา29 วรรค 2 ไม่ใช่แต่เพียงเป็นข้อยกเว้นของบทบัญญัติ มาตรา 29 วรรคแรกหากแต่เป็นบทบัญญัติที่มีผลทั่วไปด้วยว่า หากมีการลวงขายเกิดขึ้นแล้วทางแก้ของผู้เสียหายจะพึงมีอยู่อย่างใด อาทิเช่น ในมูลกรณีละเมิดก็พึงมีอยู่อย่างนั้น มิพักต้องคำนึงว่าผู้ใดจดทะเบียนไว้หรือไม่ หรือจดทะเบียนก่อนหลังกันอย่างไร
ความหมายคำว่า ‘ลวงขาย’ ในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ.2474 มาตรา 29 วรรคสอง มิได้จำกัดเฉพาะสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันเท่านั้น หากแต่มีความหมายกว้างครอบคลุมถึงกรณีต่างๆ ซึ่งจำเลยเอาสินค้าของจำเลยไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของผู้อื่นซึ่งมีความหมายได้ว่าไม่ใช่เป็นการลวงในวัตถุเท่านั้นหากแต่เป็นการลวงในความเป็นเจ้าของด้วย
ฉะนั้นเมื่อจำเลยเอาคำว่า ‘แฟ๊บ'(FAB) ในลักษณะและสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปใช้กับสินค้าของจำเลย ก็ย่อมเป็นการลวงขายผิดกฎหมายเรื่องละเมิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้คิดประดิษฐ์คำว่า “แฟ๊บ” (FAB) เป็นชื่อใช้กำกับสินค้าของโจทก์และได้จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าไว้ทั่วโลก จำเลยได้แอบอ้างเอาคำว่า “แฟ๊บ” (FAB) ในลักษณะและสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปใช้กำกับสินค้าไม้จิ้มฟันของจำเลยและนำสินค้าของจำเลยออกลวงขายประชาชนให้เข้าใจผิดคิดว่าสินค้าไม้จิ้มฟันของจำเลยเป็นสินค้าที่ประดิษฐ์โดยบริษัทโจทก์ เป็นเหตุให้การค้าของโจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยเลิกใช้คำว่า”แฟ๊บ” (FAB) และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้ทำอุตสาหกรรมผลิตไม้จิ้มฟันจึงได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “แฟ๊บ” (FAB) บนกล่องไม้จิ้มฟันของจำเลย ซึ่งเป็นสินค้าจำพวก 50 ก่อนโจทก์จำเลยมิได้แอบอ้างหรือลวงประชาชนให้หลงผิดและสินค้าของจำเลยเป็นคนละจำพวกกับของโจทก์ โจทก์ไม่เสียหาย ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานของทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาว่าโจทก์ยังนำคดีมาสู่ศาลเพื่อป้องกันและเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนนั้นไม่ได้ การที่จำเลยเอาคำว่า “แฟ๊บ” (FAB) ในลักษณะและสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปกำกับสินค้าออกจำหน่าย ยังไม่เป็นเหตุพอที่จะให้ฟังว่าจำเลยเอาสินค้าไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์ เพราะโจทก์ยังไม่ได้ประดิษฐ์ไม้จิ้มฟันออกจำหน่าย และรูปคดีก็ไม่อาจที่จะปรับให้เป็นเรื่องละเมิดสิทธิได้ เพราะจำเลยมิได้ทำผิดกฎหมายอย่างใดจึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีต้องด้วย พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง ซึ่งห้ามมิให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียน โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้แต่การกระทำของจำเลยเป็นการนำเอาเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้สำหรับสินค้าของตน เป็นการลวงขายตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 มาตรา 29 วรรคสองโจทก์มีสิทธิที่จะไม่ให้จำเลยนำเอาเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไปใช้ประกอบสินค้าของจำเลยได้ ส่วนค่าเสียหายไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้โฆษณาแก้ไขอย่างไร อาจเป็นการโฆษณาเกี่ยวกับการค้าของโจทก์เท่านั้นโจทก์จึงไม่ชอบที่จะได้รับชดใช้ค่าโฆษณาจากจำเลย พิพากษาแก้ให้จำเลยเลิกใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยใช้สำหรับไม้จิ้มฟันว่า แฟ๊บ (FAB) ซึ่งมีรูปพรรณและสีเหมือนของโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติ เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 29วรรค 2 ไม่ใช่แต่เพียงเป็นข้อยกเว้นของบทบัญญัติมาตรา 29 วรรคแรกหากแต่เป็นบทบัญญัติที่มีผลทั่วไปด้วยว่า หากมีการลวงขายเกิดขึ้นแล้ว ทางแก้ของผู้เสียหายจะพึงมีอยู่อย่างใด อาทิเช่น ในมูลกรณีละเมิด ก็พึงมีอยู่อย่างนั้น มิพักต้องคำนึงว่าผู้ใดจดทะเบียนไว้หรือไม่ หรือจดทะเบียนก่อนหลังกันอย่างไร
ความหมายของคำว่า “ลวงขาย” ดังปรากฏใน พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ มาตรา 29 วรรค 2 มิได้จำกัดเฉพาะสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันเท่านั้น หากแต่มีความหมายกว้างครอบคลุมถึงกรณีต่าง ๆ ซึ่งจำเลยเอาสินค้าของจำเลยไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของผู้อื่น ซึ่งแปลความหมายได้ว่าไม่ใช่เป็นการลวงในวัตถุเท่านั้นหากแต่เป็นการลวงในความเป็นเจ้าของด้วยฉะนั้น ในคดีนี้เมื่อปรากฏว่าจำเลยเอาคำว่า “แฟ๊บ” (FAB) ในลักษณะและสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปใช้กำกับ กับสินค้าไม้จิ้มฟันของจำเลย ก็ย่อมเป็นการลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์แล้ว เป็นการกระทำที่ไม่มีสิทธิจะทำได้ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการผิดกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420อาศัยเหตุดังกล่าวนี้ จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาจำเลย