คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทางเดินซึ่งโจทอาสัยเดินผ่านไนที่ดินของจำเลย แม้จะช้านานเพียงไดก็หาทำไห้บังเกิดภาระจำยอมไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทฟ้องขอไห้สาลพิพากสาไห้จำเลยรื้อถอนรั้วออกไปไห้พ้นที่ดินโจท ไห้โจทเดินเข้าออกบ้านเรือนโจทได้ตามเดิม กับขับไล่จำเลยไห้พ้นจากที่ดินของโจทและห้ามจำเลยหรือบริวารหย่าไห้เข้ามาเกี่ยวข้องไนที่ดินโจท และไห้จำเลยไช้ค่าเสียหาย ๓๕ บาท
จำเลยไห้การปติเสธ
สาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเปนของจำเลยและไม่มีภาระจำยอมผ่านสวนจำเลย จึงพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์วินิฉัยว่าไนเรื่องทางเดินผ่านที่ดินจำเลย โจทได้ภาระจำยอมทางอายุความส่วนที่ดินรายพิพาทฟังว่าเปนของโจท พิพากสากลับไห้จำเลยรื้อถอนรั้วออกไปไห้พ้นที่ดินของโจท กับไห้จำเลยเปิดทางเดิน คำขอนอกนั้นไห้ยกเสีย
จำเลยดีกา สาลดีกาฟังว่าที่พิพาทคงเปนของโจท คงมีปัญหาว่าทางเดินซึ่งโจทเดินผ่านไนที่ดิน จำเลยนี้ตกหยู่ไนภาระจำยอมหรือไม่ โดยโจทอ้างว่าได้ไช้เดินทางนี้มากว่า ๑๐ ปีโดยเจ้าของไม่ทักท้วงห้ามปรามและมิได้ขออนุญาตต่อผู้ได
สาลดีกาเห็นว่าการเข้าไปโดยการอาสัยโดยตรงหรือโดยปริยานก็ดี ก็หาทำไห้บังเกิดภาระจำยอมไม่เพราะการอาสัยไม่ตัดสิทธิเจ้าของ และข้อเท็ดจิงไม่ปรากดว่าโจทเดินไนที่ดินของจำเลยโดยถือสิทธิหย่างได แต่ปรากดว่าเปนการยอมไห้อาสัยเดินไนบางกรนี ทั้งไม่ปรากดว่าเปนทางไปติดกับถนนหนทางที่ไหน ความจิงปรากตว่า โจทมีทางอื่นอีกหลายทาง จึงพิพากสาไห้ยกคำพิพากสาสาลอุธรน์ ฉเพาะที่บังคับไห้จำเลยเปิดทางเดิน นอกจากนี้คงยืนตาม

Share