แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีเรื่องขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำฟ้องอุทธรณ์ต่อไปอีก 15 วัน โดยอ้างว่าทนายโจทก์ยังทำคำฟ้องอุทธรณ์ไม่ได้เนื่องจากคดีใหญ่โตมีทุนทรัพย์มาก มีกรณีสลับซับซ้อน และยังคัดคำเบิกความของพยานและรายงานกระบวนพิจารณาของศาลฉบับเผชิญสืบตรวจที่พิพาทไม่เสร็จ ทั้งทนายโจทก์คิดว่าความและเตรียมคดีเพื่อว่าความให้บุคคลอื่นหลายเรื่อง ดังนี้ ตามข้ออ้างของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่จะให้ศาลสั่งขยายเวลายื่นอุทธรณ์ให้ตามที่โจทก์ร้อง
ย่อยาว
คดีศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องก่อนครบกำหนดอุทธรณ์ ๔ วัน โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ประสงค์จะอุทธรณ์ โจทก์ได้คัดสำนวนนี้โดยให้ทนายโจทก์เป็นผู้คัดเพื่อเอาไปทำคำฟ้องอุทธรณ์ศาลอนุญาตให้คัดแต่ยังคัดไม่เสร็จยังเหลือคำเบิกความของพยานจำเลย ๓ ปาก และรายงานกระบวนพิจารณาของศาลฉบับเผชิญสืบสถานที่พิพาททนายโจทก์บอกว่าเมื่อคัดยังไม่เสร็จและคดีมีทุนทรัพย์ถึง ๗๔,๒๐๐ บาทเป็นคดีใหญ่ สำนวนความก็ใหญ่โต มีกรณีซับซ้อนหลายประการ ทนายโจทก์จึงทำคำฟ้องอุทธรณ์ไม่ทัน ทั้งทนายโจทก์คิว่าความและเตรีมคดีเพื่อว่าความให้บุคคลอื่นทีศาลจังหวัดระยองหลายเรื่อง ซึ่งศาลได้นัดไว้แล้ว ด้วยความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น โจทก์จึงขอให้ศาลสั่งขยายระยะเวลายื่นคำฟ้องอุทธรณ์ต่อไปอีก ๑๕ วัน นับแต่วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๐๖ เป็นต้นไป
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องของโจทก์ไม่มีเหตุผลที่จะขยายเวลายื่นอุทธรณ์ให้ จึงให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในกรณีเรื่องขยายระยะเวลานี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๓ นั้น ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษเท่านั้น ศาลฎีกาได้วินิจฉัยข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์แต่ละข้อแล้ว เห็นว่า ข้ออ้างของโจทก์ทุกข้อยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษ พิพากษายืน