คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3417/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ ตามฟ้องข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานรับของโจร ซึ่งแม้โจทก์จะไม่ได้ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิดฐานนี้มาด้วย ศาลฎีกาก็มีอำนาจลงโทษจำเลยในฐานรับของโจรได้ตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสาม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 1 คน ซึ่งหลบหนี ได้ร่วมกันลักเอารถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337(1) (7), 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) (7) จำเลยกระทำความผิดขณะอายุยังไม่เกิน 17 ปีลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนประกอบกับคำเบิกความชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องดังที่โจทก์ฎีกาหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แต่โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยได้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวกับคนร้าย ..แต่พยานหลักฐานโจทก์แสดงชัดว่าจำเลยร่วมนำรถจักรยานยนต์ของกลางไปขายและน่าเชื่อต่อไปด้วยว่าจำเลยทราบดีว่านายไพศาลหรือเฟิสลักรถจักรยานยนต์นั้นมา จำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานร่วมรับของโจร ซึ่งแม้โจทก์จะไม่ได้ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิดฐานนี้มาด้วย แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจลงโทษจำเลยได้ตามที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก, 83 จำเลยมีอายุเมื่อนับถึงวันกระทำความผิดยังไม่เกินสิบเจ็ดปี ลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 จำคุก 1 ปี 6 เดือน คำรับของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือน”.

Share