คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3403/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ที่ 5 ซึ่งเป็นผู้รับจ้างทำไม้ให้แก่ผู้มีชื่อ ได้ว่าจ้างโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ทำไม้นั้นอีกทอดหนึ่ง และต่อมาจำเลยจับกุมโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ในข้อหาทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้โจทก์ที่ 5เสียหายขาดรายได้ไม่ได้รับค่าจ้างจากผู้มีชื่อนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่อโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 เท่านั้น ถือไม่ได้ว่าโจทก์ที่ 5 ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดอาญาโดยตรง โจทก์ที่ 5 จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายสุวิทย์ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ทำไม้ในที่ดินของตนเองได้ โจทก์ที่ 5 รับจ้างนายสุวิทย์ทำไม้ดังกล่าวโดยว่าจ้างโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นผู้ทำไม้นั้นอีกช่วงหนึ่ง จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจร่วมกันจับกุมโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ในข้อหาทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตยึดเครื่องจักรเลื่อยไม้ไป แต่มิได้นำโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และเครื่องจักรเลื่อยไม้ส่งพนักงานสอบสวนตามหน้าที่ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตนอกจากนี้จำเลยทั้งสามมีอาวุธปืนร่วมกันปล้นทรัพย์เอาเครื่องจักรเลื่อยไม้ดังกล่าวไป และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขืนใจโจทก์ทั้งสี่ไว้ที่บ้านผู้อื่นมิได้นำส่งพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสี่ปราศจากเสรีภาพในร่างกายขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200, 340,340 ตรี, 309, 310, 83, 90, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งห้าอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ประทับฟ้องของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 309, 310 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ที่ 5 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าโจทก์ที่ 5 เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ที่โจทก์ที่ 5 ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ปฏิบัติการเลื่อยไม้ตามที่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ที่ 5 ไม่สำเร็จ ทำให้โจทก์ที่ 5 เสียหายขาดรายได้ไม่ได้รับค่าจ้างจากนายสุวิทย์นั้น เห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการกระทำต่อโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 เท่านั้น แม้จะฟังว่าโจทก์ที่ 5 ได้รับความเสียหายดังกล่าว ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ที่ 5 ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดอาญาโดยตรง โจทก์ที่ 5 จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ไม่มีอำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

Share