แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความประสงค์ผิดฐานประศาสโนบายยุยงให้เป็นความสืบหักล้างเอกสาร
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทย์เปนผู้เช่าโรงหนัง ๓ โรงแล้วให้ ฟ.เช่าต่อไป แลรับรองว่าจะใช้ค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าแทน แต่ไม่ใช้ ผู้ให้เช่าจึงมาทวงจากโจทย์ เพราะสัญญาเช่าถือยังหาได้โอนให้ ฟ.เด็ดขาดทีเดียวไม่
ซ.ผู้แทนบริษัทจำเลยที่ ๒ เห็นโอกาศเหมาะที่จะปิดโรงหนังทั้ง ๓ จึงยุยงให้โจทย์ฟ้อง ฟ.แลยอมออกเงิน ๑๐๐๐ บาทเป็นค่าจ้างทนายกับจัดหาเงิน ๑๐๐๐๐ บาท เปนค่าเช่าแลดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมให้โจทย์ แลฝ่ายโจทย์ได้เซ็นฎีกาปฏิญญารับใช้เงินคืนให้ไว้แก่จำเลยที่ ๑ ด้วย ถ้าโจทย์ไม่ฟ้อง เดี๋ยวนี้โจทย์มาฟ้องว่าโจทย์ได้ฟ้องร้อง ฟ.ตามคำสั่งของ ซ.เสร็จแล้ว ขอให้จำเลยจัดการคืนฎีกาปฏิญญาที่เซ็นให้ไว้นั้นให้แก่โจทย์แลให้ใช้เงินที่ใช้จ่ายเกินไปในการฟ้อง ฟ.ให้โจทย์ด้วย
จำเลยตัดฟ้องว่าโจทย์จะนำพยานสืบหักล้างฎีกาปฏิญญาอันมีข้อความบริบูรณ์แล้วไม่ได้ แลฟ้องแย้งขอเรียกเงินตามฎีกาปฏิญญาที่โจทย์ทำให้ไว้แก่จำเลยที่ ๑ ศาลล่างศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทย์จำเลย จำเลยฎีกา
ฎีกาตัดสิน (๑) ข้อตัดฟ้องฟังไม่ได้ เพราะการสืบพยานบุคคลเพื่อแสดงความผิดกฎหมายของสัญญาเพื่อหักล้างสัญญาเสียทีเดียวนั้นย่อมสืบได้ (๒) ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสัญญาได้เกิดขึ้นด้วยเหตุยุยงส่งเสริมให้โจทย์ฟ้อง ฟ.เพื่อ ฟ.จะได้ไม่แข่งขันฉายหนังกับจำเลย ลักษณการเช่นนี้เปนการขัดกับรัฐประศาสโนบาย ซึ่งต้องนับว่าเปนการผิดกฎหมาย จึงยกฟ้องโจทย์แลยกฎีกาจำเลย