คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตำรวจจับราษฎรฐานมีสุราเถื่อน แล้วได้ทำร้ายราษฎรผู้นั้นมีบาดเจ็บอีก ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าราษฎรผู้นั้นเป็นเจ้าของสุราเถื่อนที่ถูกจับนั้น จริงก็จะฟ้องตำรวจผู้นั้นได้เพียงฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น การกระทำของตำรวจผู้จับยังไม่เข้าลักษณะเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 145,

ย่อยาว

คดีนี้ โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๔๕,๒๕๖, ( ๘ )
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งว่า คดีโจทก์มีมูลเฉพาะข้อหาฐานทำร้ายร่างกายกะทงเดียว ส่วนข้อหาว่าจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตนั้นคดียังไม่มีมูล จึงสั่งประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาเฉพาะข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยจับโจทก์ก็เพราะโจทก์มีสุราเถื่อน ซึ่งโจทก์ได้รับต่อพนักงานสอบสวนแล้วว่า สุราที่จำเลยจับได้เป็นของโจทก์ การจับกุมโจทก์จึงเป็นการที่จำเลยกระทำตามหน้าที่ไปโดยชอบแล้วไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยคิดร้ายต่อโจทก์ หากเมื่อจับแล้ว จำเลยได้ทำร้ายโจทก์มีบาดเจ็บก็เป็นเรื่องที่จะว่ากล่าวกันในทางทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่เรื่องเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญมาตรา ๑๔๕
จึงพิพากษายืน

Share