แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ผู้คัดค้านได้ร่วมกันเขียนประกาศที่มีข้อความดูหมิ่นเสียดสีและเหยียดหยามผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างและผู้บังคับบัญชาไปปิดไว้ที่บอร์ดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ร้อง ย่อมทำให้พนักงานของผู้ร้องขาดความยำเกรง เป็นการส่งเสริมและยังยุให้พนักงานกระด้างกระเดื่องต่อผู้ร้องทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างผู้ร้องกับพนักงาน อันจะส่งผลเสียหายต่อผู้ร้องและพนักงาน เมื่อผู้ร้องสั่งให้เอาออก ผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตามเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งโดยชอบของผู้บังคับบัญชากระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ร้อง เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้อง และไม่เกรงกลัวความผิดที่ตนได้กระทำจงใจให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย ถือว่ามีเหตุสมควรให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านได้
ย่อยาว
ผู้ร้องทั้งสี่สำนวนยื่นคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งสี่ซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง
ผู้คัดค้านทั้งสี่สำนวนแถลงคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
วันนัดพิจารณา ผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสี่แถลงรับข้อเท็จจริงกันว่า ผู้ร้องมีกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย ร.1 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2536 ผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ร่วมกันเขียนประกาศข้อความว่า “แด่ผู้หิวโหย คิดจะแดกให้แดกอย่ามากนัก ฟันจะหักปากจะพอง ลองไปคิด แดกอะไรให้ตรึกตรองมองสิ่งผิดจะไปคิดหาทางแดกให้แยบยล กูจะแดกมึงจะมองกูไม่สน มึงคนจนกูคนรวยช่วยไม่ได้ กูแดกแล้วทำให้กูอยู่สบาย รถก็ได้เงินก็มีสุขีเอย”แล้วร่วมกันนำประกาศดังกล่าวไปปิดที่แผ่นป้ายประกาศของสหภาพแรงงานมาจอเร็ตต์บอร์ดดังกล่าวอยู่ภายในบริเวณที่ทำงานของผู้ร้องโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้ร้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า กรณียังไม่สมควรลงโทษโดยการเลิกจ้าง แต่เห็นสมควรให้ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างมีกำหนดคนละ 7 วัน จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านทั้งสี่ด้วยการพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างมีกำหนดคนละ 7 วัน
ผู้ร้องทั้งสี่สำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า คดีมีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งสี่นั้นข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามที่ศาลแรงงานกลางฟังมาว่า กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องตามเอกสารหมาย ร.1 ในหมวดว่าด้วยวินัยและโทษทางวินัยกำหนดไว้ว่า ความผิดเกี่ยวกับการจัดการประชุม หรือชุมนุม เขียน แจกจ่าย ติดประกาศ หรือพิมพ์โฆษณาถ้อยคำหรือบทความภายในบริเวณที่ทำงาน หรือโรงงาน หรือบริษัทโดยไม่รับอนุญาต จะได้รับการพิจารณาโทษปลดออก ผู้คัดค้านทั้งสี่ได้นำประกาศที่พิพาทในคดีนี้ไปติดที่แผ่นป้ายติดประกาศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องสั่งให้เอาประกาศดังกล่าวออกผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตาม พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าผู้คัดค้านทั้งสี่เป็นลูกจ้างของผู้ร้อง หากผู้คัดค้านทั้งสี่หรือลูกจ้างอื่นของผู้ร้องไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ร้อง ผู้คัดค้านทั้งสี่ในฐานะกรรมการลูกจ้างก็มีสิทธิดำเนินการใด ๆ ภายในขอบเขตของกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรมได้ แต่การที่ผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ร่วมกันเขียนประกาศพิพาทที่มีข้อความดูหมิ่น เสียดสี และเหยียดหยามผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างและผู้บังคับบัญชาดังกล่าวไปปิดไว้ที่บอร์ดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ร้อง ย่อมทำให้พนักงานของผู้ร้องขาดความเคารพยำเกรง เป็นการส่งเสริมและยั่วยุให้พนักงานกระด้างกระเดื่องต่อผู้ร้อง ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างผู้ร้องกับพนักงาน อันจะส่งผลเสียหายต่อผู้ร้องและพนักงานในที่สุดเมื่อผู้ร้องสั่งให้เอาออก ผู้คัดค้านทั้งสี่ก็มิได้ปฏิบัติตามเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งโดยชอบของผู้บังคับบัญชา กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ร้อง เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้อง และไม่เกรงกลัวความผิดที่ตนได้กระทำ จงใจให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย คดีมีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ตามคำร้อง