แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไม่ใช่การจัดการเกี่ยวกับสินสมรสสามีไม่จำต้องรับความยินยอมจากภรรยาก็ใช้บังคับได้ ในชั้นสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของจำเลยการไต่สวนจำเลยโดยเปิดเผยและการส่งประกาศนัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งไปยังภูมิลำเนาจำเลยซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่ปิดหมายนัดสอบสวนพยานลูกหนี้ซึ่งจำเลยก็ทราบทุกครั้งทั้งมิได้แจ้งว่าย้ายภูมิลำเนาแล้ว จึงเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อเห็นว่าได้ส่งหมายเรียกให้จำเลยโดยชอบแล้วจำเลยไม่มา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะสั่งงดสอบสวนพยานจำเลยเสียได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2531 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้แล้วไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นเสนอต่อศาลว่า ควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวน 7,978,377.04 บาทจากกองทรัพย์สินของจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฯลฯ ข้ออ้างที่ว่าจำเลยมิได้ค้ำประกันสัญญาฉบับหลังและเจ้าหนี้กรอกข้อความในสัญญาโดยจำเลยมิได้ยินยอมนั้นเป็นการขัดกับคำรับของจำเลยที่ว่าได้ลงชื่อในสัญญาจริง เป็นการปฏิเสธลอย ๆ ฟังไม่ขึ้น การค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไม่ใช่การจัดการเกี่ยวกับสินสมรส จำเลยไม่จำต้องรับความยินยอมจากภรรยาก็ใช้บังคับได้ ฯลฯ ส่วนฎีกาในข้อที่ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งงดการสอบสวนพยานจำเลยไม่ชอบนั้นก็ปรากฏว่าในชั้นสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของจำเลยการไต่สวนจำเลยโดยเปิดเผยและการส่งประกาศนัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็แจ้งไปยังภูมิลำเนาจำเลยซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่ปิดหมายนัดสอบสวนพยานลูกหนี้ในครั้งนี้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำแก้ฎีกาและสำเนาเอกสารท้ายคำแก้ฎีกาซึ่งในครั้งนั้นจำเลยก็ทราบทุกครั้งทั้งมิได้แจ้งว่าย้ายภูมิลำเนาแล้วจึงเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อเห็นว่าได้ส่งหมายเรียกให้จำเลยโดยชอบแล้วจำเลยไม่มา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะสั่งงดสอบสวนพยานจำเลยเสียได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน