คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2474

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ซื้อขาย
สัญญาจะขายที่ดิน เงื่อนเวลาสุดสิ้นแห่งสัญญาคู่สัญญาสละเสียได้ โดยปฏิบัติตามสัญญาเดิมต่อไป
ลักษณะพะยาน นำพะยานบุคคลมาสืบหักล้างพะยานเอกสารได้เพียงใด

ย่อยาว

โจทก์จำเลยทำสัญญาว่า โจทก์ยอมชายที่ดินให้จำเลยเป็นเงิน 1,2000 บาท แต่ต้องทำหนังสือซื้อขายกันภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นสัญญาสิ้นอายุ จำเลยได้วางเงินมัดจำ 40 บาท ให้โจทก์ ครั้นครบ 3 เดือนยังไม่ได้ทำหนังสือซื้อขายกัน แต่จำเลยนำเงินมาผ่อนให้โจทก์ 4 ครั้งเป็นเงิน 10,900 บาท แล้วให้โจทก์ลงนามในเอกสารซึ่งโจทก์เข้าใจเป็นใบรับเงิน แต่ภายหลังปรากฎว่าเป็นเอกสารกู้เงินของจำเลย โจทก์อ่านหนังสือไทยไม่ออก ต่อมาจำเลยปฏิเสธไม่ซื้อที่รายนี้ โจทก์จึงฟ้อง จำเลยนำเอกสาร 4 ฉะบับขึ้นต่อสู้ว่า โจทก์กู้เงินจำเลยไป และสัญญานั้นเป็นแต่เพียงคำมั่นว่าจะขายที่ดิน ไม่ใช้สัญญาจอซื้อจะขาย ฝ่ายจำเลยปฏิเสธว่าเอกสารนั้นเป็นโมฆะ
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินต้องกันว่าให้จำเลยชำระราคาที่ดินซึ่งยังค้างอยู่
กับให้ทำลายเอกสาร 4 ฉะบับนั้นเสีย
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลล่างแลกล่าวว่าเรื่องนี้ โจทก์ปฏิเสธเอกสารทั้ง 4 ฉะบับว่าเป็นโมฆะ โจทก์ย่อมนำพะยานบุคคลมาสืบลบล้างเอกสารได้ส่วนสัญญาที่ โจทก์จำเลยทำกันนั้นเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ไม่ใช่คำมั่นว่าจะขายถึงแม้ สัญญาจะครบกำหนดแล้วก็จริงอยู่ แต่ต่อมาจำเลยได้ชำระราคาที่ดินให้ โจทก์รับไปรวม 4 คราวแล้ว แลจำเลยยังได้ทำสัญญาขาย-ที่รายนี้ไปอีกทอดหนึ่ง ต้องฟังว่า โจทก์จำเลยได้มีสัญญาจะขายกันต่อไปอีกตามราคาเดิม

Share