แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายหลายครั้งและเลือกแทงบริเวณกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลด้านหลังขวาที่ทำให้ผู้ตายถึงแต่ความตายเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณช่องซี่โครงที่ 8 กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว1.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดและลึกเข้าไปในเนื้อปอด 3 เซนติเมตรมีเลือดตกในช่องปอด 1,500 ซี.ซี. ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากนำส่งโรงพยาบาลได้ 30 นาที เพราะมีเลือดตกในช่องปอดขวาจำนวนมากและปอดรั่ว แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288จำเลยให้การรับว่าใช้มีดแทงผู้ตายจริง แต่กระทำไป เพราะบันดาลโทสะศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288จำคุก 20 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 15 ปีจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยไม่โต้เถียงกันฟังเป็นยุติว่า จำเลยได้ใช้มีดแทงผู้ตายเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจริง พิเคราะห์บาดแผลของผู้ตายตามรายงานชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้อง ปรากฏว่าผู้ตายถูกแทง 3 แผล บาดแผลที่ต้นแขนซ้ายยาว2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร บาดแผลที่ด้านหลังซ้ายบนยาว 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึก 1 เซนติเมตรและบาดแผลที่ด้านหลังด้านขวา บริเวณช่องซี่โครงที่ 8 กว้าง0.5 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดและลึกเข้าไปในเนื้อปอดประมาณ 3 เซนติเมตร มีเลือดตกในช่องปอดประมาณ 1,500ซี.ซี. ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากนำส่งโรงพยาบาลได้ 30 นาทีเพราะมีเลือดตกในช่องปอดขวาจำนวนมากและปอดรั่ว ที่จำเลยแทงผู้ตายหลายครั้งและเลือกแทงบริเวณกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลที่ด้านหลังขวาที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายเป็นแผลฉกรรจ์ แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้ตาย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน