คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3366/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิทธิจำนองเป็นสิทธิที่ติดอยู่กับตัวทรัพย์จำนอง เมื่อโจทก์ได้สิทธิจำนองที่ดินของจำเลยทั้งแปลงก่อนแล้ว แม้ต่อมาในภายหลังผู้ร้องจะได้กรรมสิทธิ์มาโดยทางครอบครองในที่ดินบางส่วนของจำเลยและมีคำพิพากษารับรองก็ตาม แต่เมื่อยังไม่ได้จดทะเบียน จะยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้ สิทธิของโจทก์จึงดีกว่าสิทธิที่ผู้ร้องอ้าง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1064/2507)

ย่อยาว

คดีนี้เดิมโจทก์นำยึดและประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยโฉนดเลขที่ 314 ซึ่งโจทก์ได้ฟ้องบังคับจำนอง คดีถึงที่สุดแล้วผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินโฉนดดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นของผู้ร้องโดยทางครอบครอง ขอให้ศาลสั่งปล่อยการยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องยังไม่ได้ขอแบ่งแยกโฉนดเป็นส่วนสัด โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดได้เต็มโฉนด ส่วนเรือนไม่ได้ถูกยึดด้วยให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้สิทธิจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 314 ทั้งแปลงก่อนผู้ร้องจะอ้างได้ว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทและวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า สิทธิจำนองเป็นสิทธิที่ติดอยู่กับตัวทรัพย์จำนอง แม้หากจะฟังว่าต่อมาในภายหลังผู้ร้องจะได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองในที่ดินบางส่วนของจำเลย และแม้หากจะได้ความว่ามีคำพิพากษารับรองแล้วในภายหลังก็ตาม ศาลฎีกาก็เคยวินิจฉัยไว้ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1064/2507 ระหว่างนางผาด ลักษมณาภา โจทก์นางเสริม แสงเงิน กับพวกจำเลยว่า เจ้าหนี้ผู้รับจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนองที่ดินทั้งแปลงได้ ผู้ซึ่งได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจะยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และได้จดทะเบียนโดยสุจริตไม่ได้ สิทธิของโจทก์จึงดีกว่าสิทธิที่ผู้ร้องอ้าง

พิพากษายืน

Share