แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระหว่างที่ผู้เสียหายไปเที่ยวงานมหกรรมช้าง จำเลยที่ 2 ซึ่งผู้เสียหายไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้เข้ามาทักทายและไปเที่ยวงานด้วยกัน จนกระทั่งตกดึกผู้เสียหายจะกลับบ้านก็ขอให้จำเลยที่ 2 กับพวกไปส่ง จำเลยที่ 2 ทำรีรอว่าจะรอเพื่อนก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากบริเวณงาน ก็เห็นจำเลยที่ 2 กับพวกเดินนำหน้าไปก่อน ครั้นถึงที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็ถูกชายวัยรุ่นซึ่งมีจำเลยที่ 1 รวมอยู่ด้วยฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างทาง ส่วนจำเลยที่ 2 ถอดกางเกงรออยู่ ผู้เสียหายขอร้องว่าอย่าทำหนูเลย จำเลยที่ 2 ตอบว่าอีกคนหนึ่ง แต่มีคนเดินมาคนร้ายจึงอุ้มผู้เสียหายไปที่อื่นแล้วข่มขืนกระทำชำเราจนผู้เสียหายสลบไป ตามพฤติการณ์ส่อว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับพวกเพื่อกระทำความผิดมาแต่ต้น
การร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงนั้นจะต้องก่อนหลังกันอยู่ พวกของจำเลยบางคนได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว บางคนกำลังข่มขืนกระทำชำเราอยู่ จำเลยที่ 2 ซึ่งได้ถอดกางเกงรออยู่พร้อมที่จะ ข่มขืนกระทำชำเราเป็นคนต่อไป แม้จะยังไม่ทันได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เพราะมีผู้อื่นมายังที่เกิดเหตุจึงหลบหนีไปเสียก่อน ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่หลบหนีอีก 2 คน ได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและใช้มีดปลายแหลมจี้คอนางสาวบำรุง ทรงสุข ผู้เสียหายแล้วได้ผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ทุกคนอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง, 83
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ 2 ให้การว่าเพียงแต่เห็นเหตุการณ์แล้วเข้าไปแก้ผ้ารอจะข่มขืนบ้างแต่เผชิญมีคนเดินมาจึงหนีไป ไม่ได้ร่วมข่มขืนด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 83 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนวินิจฉัยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไปเที่ยวงานมหกรรมช้าง พบจำเลยที่ 2 กับพวกหน้าบริเวณงาน ผู้เสียหายไม่เคยรู้จักจำเลยที่ 2 กับพวกมาก่อน จำเลยที่ 2 ได้เข้ามาทักทายและเข้าไปเที่ยวงานด้วยกันจนกระทั่งตกดึกผู้เสียหายจะกลับบ้านก็ขอให้จำเลยที่ 2 กับพวกไปส่ง จำเลยที่ 2 ทำรีรอว่าจะรอเพื่อนก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากบริเวณงาน ก็เห็นจำเลยที่ 2 กับพวกเดินนำหน้าไปก่อน ครั้นถึงที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็ถูกชายวัยรุ่นซึ่งมีจำเลยที่ 1 รวมอยู่ด้วยฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างทางส่วนจำเลยที่ 2 ถอดกางเกงรออยู่ ผู้เสียหายพูดขอร้องว่าอย่าทำหนูเลย จำเลยที่ 2ตอบว่าอีกคนหนึ่ง แต่มีคนเดินมาคนร้ายจึงอุ้มผู้เสียหายไปที่อื่น แล้วข่มขืนกระทำชำเราจนผู้เสียหายสลบไป ตามพฤติการณ์ส่อว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับพวกเพื่อกระทำความผิดมาแต่ต้น
การร่วมกันกระทำชำเราอันเป็นการโทรมหญิงนั้นจะต้องก่อนหลังกันอยู่พวกของจำเลยบางคนได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว บางคนกำลังข่มขืนกระทำชำเราอยู่ จำเลยที่ 2 เองก็ถอดกางเกงรออยู่พร้อมที่จะข่มขืนกระทำชำเราเป็นคนต่อไป แม้จำเลยที่ 2 จะยังไม่ทันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เพราะมีผู้อื่นมายังที่เกิดเหตุ จึงหลบหนีไปเสียก่อน จำเลยที่ 2 ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว
พิพากษายืน