แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและการอนุญาตยังไม่สิ้นสุดหรือถูกเพิกถอน ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวเชื้อชาติเขมร สัญชาติเขมร ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยที่ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่จังหวัดตราด โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 81ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 81 ปรับจำเลย 10,000 บาท จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2499 จำเลยเป็นทหารกัมพูชาอิสระได้ช่วยกู้ชาติต่อต้านฝรั่งเศษแล้วหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ทางตำบลไม้รูด กิ่งอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด พร้อมกับพวกรวม 298 คน ทางราชการได้ควบคุมจำเลยกับพวกไว้เป็นเวลา 2 เดือนเศษ หลังจากนั้นได้ปล่อยให้ทำมาหากินอย่างอิสระ ต่อมาวันที่ 15 พฤศจิกายน 2504 นายอำเภอเมืองตราดได้ออกหนังสือรับรองให้ว่า จำเลยเคยอยู่ หมู่ที่ 5 ตำบลห้วงน้ำขาวอำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1 ต่อมาวันที่ 28 กันยายน 2514 ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือที่มท.0206/11519 ตอบข้อหารือ แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดว่าชาวเขมรอิสระจำนวน 298 คน ซึ่งมีจำเลยรวมอยู่ด้วย มิได้อยู่ในข่ายที่จะส่งกลับออกไป เพราะคนเหล่านี้ได้เข้ามาในประเทศไทยก่อนมีการปฏิวัติในเขมร จึงยังไม่ต้องดำเนินการใด ๆ กับคนเหล่านี้ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.5 ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2532 รองปลัดกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ตอบข้อหารือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดให้ถือปฏิบัติต่อชาวเขมรอิสระตามหนังสือที่ มท.0206/11519 ลงวันที่ 28 กันยายน 2514 ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.8 ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าการที่จำเลยอยู่ในราชอาณาจักรไทยตลอดมาดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81 ตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คนต่างด้าวซึ่งจะมีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวต้องอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอน แต่ตามพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ทางราชการได้ปฏิบัติต่อจำเลยประกอบกับพยานเอกสารดังกล่าวข้างต้น ย่อมรับฟังได้ว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและการอนุญาตก็ยังไม่สิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน