คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติ ญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522หมวด 9 การคัดค้านการเลือกตั้ง บัญญัติไว้ในมาตรา 78 ว่า กรณีที่จะร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้นั้นเฉพาะกรณีที่การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นมีการฝ่าฝืนมาตรา 26 มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 51 หรือมาตรา 52 เท่านั้น คำร้องของผู้ร้องได้กล่าวอ้างถึงการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 32 เรื่องที่ผู้ได้รับเลือกตั้งใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 ใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทโดยไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำนวนเงินที่แน่นอนของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ใช้นั้นเป็นเท่าใด คงใช้วิธีประมาณการเอาเท่านั้นและมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้ปรากฏว่าเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องใดเท่าใด จ่ายไปเมื่อใด ให้แก่ใคร ส่วนที่กล่าวไว้ว่าใช้การซื้อเสียงด้วยเงินก็ไม่กล่าวว่าซื้อเสียงใคร จำนวนมากน้อยเท่าใดสิ้นเงินไปในการนี้เท่าใด ได้จ่ายไปก่อนหรือหลังจากมีการสมัครรับเลือกตั้งข้อกล่าวอ้างตามคำร้องจึงไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาพอที่จะให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ซึ่งถูกกล่าวหาเข้าใจได้ดีพอที่จะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง นอกจากนั้นในคำร้องก็มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงเป็นการยืนยันให้เห็นว่า การจ่ายเงินจำนวนที่ผู้ร้องประมาณการมานั้นเป็นการใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งคงกล่าวแต่เพียงว่าใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทเท่านั้น คำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเคลือบคลุมสำหรับข้ออ้างเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งตามมาตรา 52 ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ในวันเลือกตั้งปรากฏว่าที่หน่วยเลือกตั้งบางหน่วย เช่น หน่วยเลือกตั้งบ้านโคกกระดี่อำเภอตาคลี กรรมการควบคุมการเลือกตั้งได้ช่วยกากากบาทให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 โดยไม่ได้กล่าวว่ากรรมการควบคุมการเลือกตั้งที่กระทำการดังที่อ้างนั้นเป็นใคร จำนวนคะแนนที่อ้างว่า กากบาทให้นั้นเป็นจำนวนเท่าใด จะทำให้ผลของการเลือกตั้งเปลี่ยนไปหรือไม่ ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องไม่อาจเข้าใจได้ว่าเจ้าพนักงานคนใดกระทำอย่างนั้น ผู้คัดค้านที่ 3 ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งไม่อาจเข้าใจข้อหาและต่อสู้ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องได้ถูกต้อง คำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเคลือบคลุม เมื่อคำร้องของผู้ร้องเป็นคำร้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้องตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 จึงไม่อาจพิจารณาข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องนำสืบมาในเหตุอ้างสองประการดังกล่าวได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์อันมีพื้นที่ 4 อำเภอคืออำเภอตาคลี อำเภอตากฟ้า อำเภอไพศาลีและอำเภอหนองบัว ซึ่งมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม2531 แต่การรับสมัครเลือกตั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากรูปถ่ายของ ป.ผู้สมัครหมายเลข 1และของ ว. ผู้สมัครหมายเลข 2 ไม่ได้ขนาดตามที่กฎหมายกำหนดและถ่ายมาก่อน 6 เดือนก่อนวันรับสมัครเลือกตั้ง การรับสมัครบุคคลทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ปล่อยปละละเลยให้บุคคลทั้งสองไปพูดหาเสียงในขณะที่นายอำเภอแต่ละอำเภอประชุมประจำเดือน เพื่อจูงใจให้เลือกบุคคลทั้งสองเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วทำการเลี้ยงอาหารอย่างเปิดเผย จ่ายเงินให้ผู้ใหญ่บ้าน และกำนันทุกอำเภอในเขตเลือกตั้งที่ 3 ได้จัดเลี้ยงอาหารประชาชน ณ บริเวณตลาดตากฟ้า อำเภอตากฟ้า และในเขตเลือกตั้งที่ 3 อีกหลายแห่ง เพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกบุคคลทั้งสองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบุคคลทั้งสองยังว่าจ้างกำนันให้เป็นผู้หาเสียงให้ ในการสมัครรับเลือกตั้งบุคคลทั้งสองได้ใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และนำไปซื้อเสียงซื้อคะแนนจากประชาชนจนบุคคลทั้งสองได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนั้นในวันเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งบางหน่วยเช่นหน่วยเลือกตั้งบ้านโคกกระดี่ อำเภอตาคลี กรรมการควบคุมการเลือกตั้งยังได้ช่วยกากบาทให้แก่บุคคลทั้งสองอีกด้วย ขอให้มีคำสั่งว่า ป. และ ว. ที่ได้รับเลือกตั้งตกเป็นโมฆะ และทำการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 คัดค้านว่ารูปถ่ายของผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 มีขนาดถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 มิได้กระทำการใด ๆ ดังที่ผู้ร้องอ้าง และได้ใช้เงินตามที่กฎหมายกำหนด มิได้ซื้อคะแนนจากประชาชน กรรมการควบคุมการเลือกตั้งมิได้ช่วยกากบาทช่วยเหลือผู้คัดค้านแต่อย่างใด คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ผู้คัดค้านที่ 3คัดค้านว่า ได้ปฏิบัติถูกต้องตามหน้าที่ ผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกี่ยวกับรูปถ่ายมิใช่เหตุที่จะคัดค้านการเลือกตั้งตามกฎหมาย ผู้คัดค้านที่ 3 ไม่เคยละเลยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดไปกล่าวหาเสียงในที่ประชุมประจำเดือนของนายอำเภอ ไม่มีการเลี้ยงอาหารและจ่ายเงินเพื่อจูงใจให้เลือก ป. และ ว. ไม่มีกำนันคนใดกระทำการดังอ้าง และเหตุดังกล่าวมิใช่เหตุที่จะคัดค้านการเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนใช้เงินไม่เกินสามแสนห้าหมื่นบาท และคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ไม่มีเหตุที่จะต้องเลือกตั้งใหม่ ในชั้นไต่สวนคำร้องผู้ร้องแถลงไม่ติดใจเรื่องรูปถ่ายของผู้สมัคร ศาลจังหวัดนครสวรรค์ไต่สวนแล้วทำความเห็นส่งสำนวนมายังศาลฎีกาว่า คำร้องของผู้ร้องเป็นคำร้องที่เคลือบคลุมเห็นควรยกคำร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 หมวด 9 การคัดค้านการเลือกตั้ง บัญญัติไว้ในมาตรา 78 ว่า กรณีที่จะร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้นั้นเฉพาะกรณีที่การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นมีการฝ่าฝืนมาตรา 26มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 51 หรือมาตรา 52 เท่านั้น เมื่อพิจารณาคำร้องของผู้ร้องแล้ว เห็นได้ว่าในคำร้องของผู้ร้องได้กล่าวอ้างถึงการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 32 เรื่องผู้ได้รับเลือกตั้งแต่ละคนใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกินสามแสนห้าหมื่นบาทและมาตรา 52 เรื่องเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกระทำการอันใดเพื่อขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย กฎกระทรวงหรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งข้อกล่าวอ้างทั้งสองประการดังกล่าวผู้คัดค้านทั้งสามให้การต่อสู้ว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุมศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยในปัญหานี้ก่อนตามคำร้องของผู้ร้องในเรื่องที่ผู้ได้รับเลือกตั้งใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้นผู้ร้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงในคำร้องว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2ใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาท โดยไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำนวนที่แน่นอนของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ใช้นั้นเป็นเท่าใด คงใช้วิธีประมาณการเอาเท่านั้น และมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้ปรากฏเลยว่าเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องใดเท่าใด จ่ายไปเมื่อใดให้แก่ใคร ส่วนที่กล่าวไว้ว่าใช้การซื้อเสียงด้วยเงินก็ไม่กล่าวว่าซื้อเสียงใครจำนวนมากน้อยเท่าใดสิ้นเงินไปในการนี้เท่าใด ได้จ่ายไปก่อนหรือหลังจากมีการสมัครรับเลือกตั้ง ข้อกล่าวอ้างตามคำร้องจึงไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาพอที่จะให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ซึ่งถูกกล่าวหาเข้าใจได้ดีพอที่จะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง นอกจากนั้นในคำร้องของผู้ร้องก็มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงเป็นการยืนยันให้เห็นว่าการจ่ายเงินจำนวนที่ผู้ร้องประมาณการมานั้นเป็นการใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งคงกล่าวแต่เพียงว่าใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทเท่านั้นคำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม สำหรับข้ออ้างเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งตามมาตรา 52 นั้น ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ในวันเลือกตั้งปรากฏว่าที่หน่วยเลือกตั้งบางหน่วย เช่นหน่วยเลือกตั้งบ้านโคกกระดี่ อำเภอตาคลี กรรมการควบคุมการเลือกตั้งยังได้ช่วยกากบาทให้แก่บุคคลทั้งสองอีกด้วย โดยไม่ได้กล่าวว่ากรรมการควบคุมการเลือกตั้งที่กระทำการดังที่อ้างนั้นเป็นใคร จำนวนคะแนนที่อ้างว่ากากบาทให้นั้นเป็นจำนวนเท่าใด จะทำให้ผลของการเลือกตั้งเปลี่ยนไปหรือไม่ ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องตามคำร้องเช่นนี้ไม่อาจจะทำให้เข้าใจได้ว่า เจ้าพนักงานคนใดกระทำอย่างนั้น ผู้คัดค้านที่ 3ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง ไม่อาจจะเข้าใจข้อหาได้และไม่อาจจะต่อสู้ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องได้ถูกต้อง คำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เมื่อวินิจฉัยว่าคำร้องของผู้ร้องที่เกี่ยวกับมาตรา 32 และมาตรา 52 เป็นคำร้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้องตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว จึงไม่อาจจะพิจารณาข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องนำสืบมาในเหตุอ้างสองประการดังกล่าวได้ ส่วนข้อกล่าวอ้างในคำร้องของผู้ร้องนอกจากสองกรณีตามที่กล่าวแล้ว ก็ไม่ใช่ข้ออ้างตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติมาตราต่าง ๆตามบัญญัติไว้ในมาตรา 78 ที่จะอ้างมาเป็นเหตุให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ สรุปแล้วตามคำร้องของผู้ร้องนั้น ไม่ปรากฏให้เห็นว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 ตามคำร้องของผู้ร้อง ได้รับเลือกตั้งมาโดยมิชอบอันสมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามคำขอของผู้ร้อง”
มีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

Share