คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจะขอสืบพะยานในข้อที่ไม่ได้ซักค้านพะยานโจทก์ไว้ เมื่อศาลเห็นสมควรก็อนุญาตให้จำเลยนำสืบได้ จำเลยขอสืบพะยานในข้อที่ว่าพะยานโจทก์ไม่มีใครพบปะคนร้ายและการแจ้งความก็ระบุว่าไม่พบคนร้ายดังนี้ ย่อมนำสืบได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานปล้น จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่าพวกเจ้าทรัพย์ไปตามกระบือคืนมาได้โดยไม่พบปะคนร้าย พวกเจ้าทรัพย์สมคบกันแกล้งกล่าวหาจำเลย
ศาลชั้นต้นสืบพะยานโจทก์ ๖ ปาก สืบพะยานฐานที่อยู่ของจำเลย ๓ ปาก จำเลยจะขอสืบอีก ๖ ปากคือ ๑ จะสืบนายฟื้นในข้อที่นายฟื้นเป็นผู้ไปบอกเจ้าทรัพย์ว่ากระบือหาย นายอ่อนมิได้ไปบอกเพราะไม่ใช่คนรู้เห็น ๒.จะสืบนายรุน นายพรมโดยคนทั้ง ๒ ช่วยเจ้าทรัพย์ตามกระบือ พบกระบือผูกซุ่มอยู่ในป่าไม่ได้พบคนร้าย ๓.จะสืบนายลุ่ม นายกิ่งในข้อที่เจ้าทรัพย์พึ่งทราบกระบือหายวันแรมค่ำ ๑ ๔. จะสืบนายโลน กำนันในข้อที่ได้รับคำแจ้งความจากเจ้าทรัพย์เพียงว่าพบกระบือผูกซุ่มอยู่ในป่า ไม่ได้เห็นคนร้าย
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้สืบพะยานจำเลยดังกล่าวนั้น โดยเห็นว่าเป็นการขอพิศูจน์พะยานโจทก์ แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๑
ศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้สืบพะยานจำเลยต่อไป
ศาลฎีกาตัดสินว่า แม้จำเลยจะมิได้ถามค้านพะยานโจทก์ไว้ก่อน ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๘๙ ตาม ม.๘๙ เองก็ให้อำนาจศาลยอมรับฟังคำพะยาน เช่น ว่านี้ได้ ในคดีนี้จำเลยแถลงว่าไม่ติดใจแต่งทนาย ได้ขอให้ศาลซักถามให้ตามรูปความศาลฎีกาจึงเห็นชอบด้วยศาลอุทธรณ์ที่ยอมให้จำเลยสืบพะยาน จึงพิพากษายืน

Share