แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลนัดสืบพยานโจทก์ต่อจากที่กำลังสืบอยู่ไปในวันที่12 และ 22 ตุลาคม 2525 สองนัดติดต่อกัน แม้โจทก์จะไม่มาศาลในวันนัดแรกเพราะเข้าใจผิดว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์เพียงวันเดียวคือวันที่ 22 ซึ่งได้นำพยานมาเตรียมสืบในวันดังกล่าวแล้ว ดังนี้ โจทก์มิได้เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชอบที่จะพิจารณา คดีต่อไป ไม่ควรสั่งจำหน่ายคดี โดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้วมีคำสั่งให้จำเลยนำสืบก่อน สืบพยานจำเลยหมดแล้ว ระหว่างสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานเมื่อวันที่12 ตุลาคม 2525 ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดี โดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งในคำพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้เป็นกรณีที่โจทก์ได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วไม่ไปศาลในวันนัดที่ 12 ตุลาคม 2525 ศาลชั้นต้นจึ่งสั่งจำหน่ายคดีโดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง แต่ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2525 ได้นัดสืบพยานโจทก์ต่อจากที่กำลังสืบอยู่ไปในวันที่ 12 และ 22 ตุลาคม 2525 สองนัดติดต่อกัน แม้โจทก์จะไม่มาศาลในวันนัดแรกที่ 12 ตุลาคม 2525 แต่ก็นำพยานมาเตรียมสืบในวันที่ 22 ตุลาคม 2525 ดังที่โจทก์แถลงเป็นหนังสือต่อศาลชั้นต้น ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2525 นั้น ซึ่งแสดงว่าโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป สำหรับสาเหตุที่โจทก์ไม่ได้ไปศาลในวันที่ 12 ตุลาคม 2525 เพราะเข้าใจผิดไปว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์เพียงวันเดียวคือวันที่ 22 ตุลาคม 2525 ก็มีเหตุผล ให้รับฟังพฤติการณ์เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ส่วนข้อฎีกาของจำเลยที่ว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ โดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง เป็นกระบวนพิจารณาไม่ชอบศาลต้องพิจารณาและพิพากษาไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โดยขอให้งดสืบพยานโจทก์และพิพากษายกฟ้องนั้น เห็นว่า ข้อฎีกาของจำเลยขัดแย้งกับคำขอของจำเลยในการดำเนินกระบวนพิจารณาเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม2525 ซึ่งจำเลยแถลงต่อศาลเองว่า โจทก์ทราบวันนัดแล้วไม่มาศาลขอให้ศาลจำหน่ายคดี ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้สั่งตามคำขอของจำเลย ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว ฉะนั้นเมื่อคดีได้ความว่า โจทก์มิได้จงใจจะไม่มาศาลตามนัดศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะพิจารณาคดีต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ให้โอกาสโจทก์สืบพยานต่อไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และพิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่