คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334-335/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองคน โจทก์อุทธรณ์ส่วนจำเลยคนหนึ่งอุทธรณ์ อีกคนหนึ่งมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยคนที่อุทธรณ์ แต่สำหรับจำเลยคนที่มิได้อุทธรณ์ คงพิพากษาลงโทษตามเดิมโดยมิได้แก้ไขแต่อย่างใดเช่นนี้จำเลยคนที่มิได้อุทธรณ์ไว้จะฎีกาไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 628/2496)

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนดังกล่าว ศาลรวมพิจารณาโดยโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนว่าได้ร่วมกันปล้นทรัพย์และพยายามฆ่าผู้เสียหาย สำหรับนายนงค์จำเลยนั้นโจทก์ฟ้องในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองและเพิ่มโทษนายนงค์จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ กับให้จำเลยทั้งสองคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ริบปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง ส่วนมีดเหน็บคืนเจ้าทรัพย์
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านายนงค์จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๑ วรรค ๒ วรรค ๓ วรรค ๔, ๘๓, ๙๒ กับต้องเพิ่มโทษอีก ๑ ใน ๓ แต่คำรับสารภาพของนายนงค์จำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ควรลดโทษให้ ๑ ใน ๓ เหตุเพิ่มโทษและลดโทษมีเท่ากัน จึงไม่เพิ่มโทษและไม่ลด คงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๘๓ ซึ่งเป็นกระทงหนัก นายไวจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๑ วรรค ๒วรรค ๓ และวรรค ๔, ๘๓ ให้จำคุกจำเลยทั้งสองไว้มีกำหนด ๒๐ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๔,๑๒๕ บาทแก่เจ้าทรัพย์ มีดเหน็บของกลางคืนเจ้าทรัพย์ อาวุธปืนกับปลอกกระสุนปืนของกลางริบ คำขอโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าด้วย และนายไวจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษนายไวจำเลยแต่เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ปรับบทลงโทษนายนงค์จำเลย พิพากษาแก้เฉพาะคดีที่นายไวเป็นจำเลยเป็นให้ยกฟ้องโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายไวจำเลยตามฟ้อง และฎีกาในข้อกฎหมายว่าการกระทำของนายนงค์จำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าด้วย
นายนงค์จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาของนายนงค์จำเลยว่า ในชั้นอุทธรณ์นายนงค์จำเลยมิได้อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงเฉพาะตัวนายนงค์จำเลยจึงยุติแล้วนายนงค์จำเลยฎีกาไม่ได้ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๒๘/๒๔๙๖ ระหว่างอัยการจังหวัดเลย โจทก์ นายอ่อน แจ้งไพร กับพวกจำเลย จึงให้ยกฎีกาของนายนงค์จำเลย
สำหรับฎีกาโจทก์ที่ขอให้ลงโทษนายไวจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังลงโทษนายไวจำเลยแต่ที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบอาวุธปืนลูกซองมีทะเบียนของนายไวจำเลยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เพราะไม่ได้ความว่าปืนของกลางได้ใช้กระทำผิดจะริบเสียไม่ได้และที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายนงค์จำเลยในฐานพยายามฆ่าด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่านายนงค์จำเลยกับพวกสมคบกันมาปล้นทรัพย์ ไม่ได้ความว่าสมคบกันมาฆ่าผู้เสียหาย และตอนที่พวกจำเลยยิงนายสนั่นผู้เสียหาย นายนงค์จำเลยก็ไม่ได้ร่วมรู้เห็นเป็นใจในการที่พวกจำเลยยิงนายสนั่น จะถือว่านายนงค์จำเลยร่วมกระทำผิดฐานพยายามฆ่าคนด้วยกันไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นไม่ริบอาวุธปืนลูกซองของกลางที่จับได้จากนายไวจำเลย นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share