คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเรียกเงินจาก ป. กับพวก โดยอ้างว่าจะนำไปให้ผู้พิพากษาเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจผู้พิพากษาให้พิพากษายกฟ้องคดีอาญาซึ่งญาติของ ป. กับพวกถูกฟ้องเป็นจำเลย ต่อมาเมื่อ ป. กับพวกรวบรวมเงินตามจำนวนที่จำเลยเรียกร้องครบแล้ว จึงได้มอบให้จำเลยรับไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเรียกและรับเงินซึ่งเป็นเจตนาอันเดียวกันมาตั้งแต่แรกและเป็นการกระทำต่อเนื่องในคราวเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาชีพเป็นทนายความรับว่าความแก้ต่างให้แก่จำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 454/2521 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 4 (ศาลจังหวัดพิษณุโลก) ในขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลจำเลยได้เรียกเงินจากนางเปล่ง กับพวกซึ่งเป็นญาติของจำเลยในคดีดังกล่าว อ้างว่าจะนำไปมอบให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและผู้พิพากษาเป็นค่าตอบแทนในการที่จะจูงใจให้พิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าวเสีย นางเปล่งกับพวกได้มอบเงินให้จำเลยไปตามที่จำเลยเรียก ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 รวมสองกระทง ให้เรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยเรียกเงินจากนางเปล่งกับพวก โดยอ้างว่าจะนำไปให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้พิพากษายกฟ้องปล่อยตัวจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 199/2521 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 4 (ศาลจังหวัดพิษณุโลก) ในวันเวลาหนึ่ง และต่อมาในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2521 จำเลยจึงได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากนางเปล่งกับพวกนั้น เป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเรียกและรับเงินจากนางเปล่งกับพวกเพื่อจูงใจผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นเจตนาอันเดียวกันมาตั้งแต่แรก และเป็นการกระทำต่อเนื่องในคราวเดียวกันถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ให้จำคุก 3 ปี

Share