คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3323/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จอดรถปิดกั้นทางหลวง เป็นความผิดสำเร็จตั้งแต่จอดรถผู้ที่มาร่วมด้วยภายหลังไม่เป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.ว. 295 พ.ศ. 2515ข้อ 35, 84 จำคุกจำเลยที่ 1 2 ปี จำเลยที่ 2 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเกิดเหตุนายสุรินทร์ผู้เสียหายกับจำเลยที่ 2 โต้เถียงกันเรื่องขับรถยนต์รับจ้างแย่งรับผู้โดยสาร จำเลยที่ 2โกรธผู้เสียหาย จึงได้ขับรถยนต์ไปจอดขวางทางอยู่บนสะพานข้ามคลองชลประทานแล้วจำเลยที่ 2 ใส่กุญแจที่พวงมาลัยรถและประตูรถ และหลบไปอยู่ที่อื่น เมื่อผู้เสียหายกับผู้อื่นขับรถไปจะแล่นผ่านตรงสะพานนั้น ก็ผ่านไม่ได้เพราะสะพานแคบ ผู้เสียหายรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจเวลาประมาณ 20 นาฬิกาเจ้าพนักงานจับจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 3 คนได้ขณะนั่งอยู่ที่ท้ายรถของจำเลยที่ 2 ตรวจค้นได้กระสุนปืนลูกซอง 10 นัดที่ตัวจำเลยที่ 1และพบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกในรถของจำเลยที่ 1 ซึ่งจอดอยู่ริมถนนห่างสะพานประมาณ 1 วา รถของจำเลยที่ 1 ไม่กีดขวางทางเดินรถคันอื่น ๆจำเลยที่ 2 ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานปิดกั้นทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคลอื่นได้ คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 เป็นอันยุติแล้ว

ปัญหามีว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 2 หรือไม่ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ไปจอดขวางทางอยู่บนสะพานข้ามคลองชลประทาน ใส่กุญแจที่พวงมาลัยและประตูรถแล้วหลบไปอยู่ที่อื่นนั้น เป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่เพียงผู้เดียวซึ่งเกิดขึ้นโดยกระทันหันเนื่องจากโกรธผู้เสียหายเกี่ยวกับเรื่องขับรถยนต์แย่งรับผู้โดยสารจำเลยที่ 1 ไม่ได้รู้เห็นหรือมีส่วนร่วมมือในการกระทำของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวมาแม้แต่ประการใด และการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดสำเร็จแล้วนับแต่จำเลยที่ 2 จอดรถปิดกั้นทางหลวงดังนี้แม้จะได้ความว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ไปที่ที่เกิดเหตุภายหลังจากเวลาเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีพวกอีกสามคนและอาวุธปืนพร้อมกระสุนปืนไปด้วยแล้วไปนั่งอยู่ที่ท้ายรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไม่ได้ช่วยลากหรือเข็นรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ให้พ้นไปจากสะพาน เพื่อให้รถยนต์คันอื่น ๆ แล่นผ่านสะพานนั้นไปได้ตามฎีกาของโจทก์ ก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 2”

พิพากษายืน

Share