คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยมีลักษณะเป็นคำรับซึ่งเกิดจากการจูงใจของเจ้าพนักงานตำรวจ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26, 76 วรรคสองประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน ของกลางศาลสั่งริบไปแล้วตามคำพิพากษาหมายเลขแดงที่ 943/2535 ของศาลชั้นต้นคำขอส่วนนี้จึงให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานในคดีนี้ยังมีข้อน่าสงสัยคือได้ความจากสิบตำรวจตรีตรีภพ และร้อยตำรวจโทธวัชชัยว่ากัญชาที่ซุกซ่อนอยู่ในหลังคารถยนต์นั้น หากไม่มีการตรวจค้นก็จะไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดในรถ เมื่อถูกจับกุมแล้วตอนแรกนางมาลีสารภาพเพียงคนเดียวโดยบอกว่าจำเลยไม่ทราบเรื่องกัญชา ส่วนจำเลยให้การปฏิเสธว่าจะพานางมาลีไปหาแพทย์ ต่อมาเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมกับพวกชี้แจงว่าเมื่อจำเลยเป็นผู้ขับรถยนต์นั้นมาและมีของผิดกฎหมายอยู่ในรถจำเลยก็ต้องรับผิด จำเลยจึงให้การรับสารภาพ และได้ความจากพันตำรวจตรีสาทิศ พนักงานสอบสวนคดีนี้ว่าตอนแรกจำเลยให้การปฏิเสธว่าจะขับรถพาภริยาไปหาแพทย์ แต่พันตำรวจตรีสาทิศชี้แจ้งว่าผู้ครอบครองรถจะต้องรับผิดหากมีของผิดกฎหมายอยู่ในรถจำเลยจึงรับสารภาพ ดังนี้ คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นคำรับซึ่งเกิดจากการจูงใจของเจ้าพนักงานตำรวจ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะเป็นผู้ขับรถยนต์กระบะซึ่งมีกัญชาของกลางซุกซ่อนอยู่ แต่จำเลยมิได้เป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าวเป็นปกติ ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนก็ฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจชั้นจับกุมคงมีแต่นางมาลี ภริยาจำเลยที่รับว่ากัญชาดังกล่าวเป็นของตน ไม่เกี่ยวกับจำเลย รูปคดีเป็นไปได้ว่าจำเลยไม่ทราบว่า รถยนต์ของกลางมีกัญชาซุกซ่อนอยู่ คดีจึงมีข้อสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง
พิพากษายืน

Share