คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ท. เคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บกระสุนปืนเข้ากระดูกสันหลัง ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ท. ทำสัญญาประกันชีวิตไว้กับจำเลย ก่อนทำสัญญาประกันชีวิต แพทย์ตรวจร่างกาย ท.และมีความเห็นว่า ท. มีสุขภาพปกติเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไปต่อมารถบรรทุกชนรถจักรยานยนต์ที่ ท.ขับขี่ท. ถึงแก่กรรมดังนี้ จำเลยมิได้นำสืบว่าอาการบาดเจ็บที่ ท. ได้รับมาจากการถูกยิงจะเป็นสาเหตุให้ ท. ถึงแก่กรรมเร็วกว่าระยะเวลาในสัญญาประกันชีวิต และเหตุที่ ท. ถึงแก่กรรมก็มิใช่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เคยได้รับจากการถูกยิง ฉะนั้น การที่ ท. มิได้แถลงว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงไม่อาจอนุมานได้ว่าถ้า ท. เปิดเผยความจริงเช่นนั้นจะจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาหรือเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้น อันจะทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยจึงบอกล้างสัญญาประกันชีวิตไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายเงินตามกรมธรรม์ประกันชีวิตของนายเทียนเต็ก เซี่ยงหว็อง พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าในขณะเอาประกันชีวิต นายเทียนเต็ก แถลงเท็จว่าตนมีอนามัยดี ก่อนเอาประกันชีวิตไม่เคยรับการรักษาจากแพทย์เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ไม่เคยรับการรักษาในโรงพยาบาล ไม่เคยผ่าตัด แต่ความจริงนายเทียนเต็กเคยถูกยิง กระสุนปืนถูกกระดูกสันหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล หากนายเทียนเต็กแถลงตามความจริงจำเลยจะบอกปัดไม่ทำสัญญา สัญญาประกันชีวิตจึงเป็นโมฆียะ จำเลยได้บอกล้างสัญญาแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิรับเงินประกันชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้องแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2519 ถึงปี พ.ศ. 2520 นายเทียนเต็ก เซี่ยงหว็อง ถูกคนร้ายชิงรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ไป คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายเทียนเต็กได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านโป่งประมาณเดือนเศษแล้วกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ครั้นวันที่ 30 เมษายน 2523นายเทียนเต็กทำสัญญาประกันชีวิตกับตัวแทนของจำเลยโดยมิได้แจ้งแก่ตัวแทนของจำเลยว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ต่อมาเดือนตุลาคม 2523 นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมคงมีปัญหาว่าการที่นายเทียนเต็กไม่แจ้งข้อความจริงดังกล่าวแก่ตัวแทนจำเลยทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะหรือไม่…
พิเคราะห์แล้ว ในคำขอประกันชีวิตของนายเทียนเต็กเอกสารหมาย ล.5รายงานของตัวแทนบริษัทของดจำเลยระบุว่านายเทียนเต็กมีสุขภาพสมบูรณ์ดี นายแพทย์วิชาญ ลีละวัฒน์ พยานจำเลยผู้ตรวจสุขภาพของนายเทียนเต็กก็เบิกความว่า ได้ตรวจระบบประสาทกล้ามเนื้อขาและความพิการของขา เห็นว่าเป็นปกติเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป แสดงว่าขณะที่นายเทียนเต็กเอาประกันชีวิตกับจำเลยนายเทียนเต็กมีสุขภาพโดยทั่วไปดีส่วนที่จำเลยมีหลักฐานมาแสดงว่าขณะที่นายเทียนเต็กไปตรวจเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารนายเทียนเต็กมีกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างเหี่ยวลีบก็เป็นเวลาก่อนเอาประกันชีวิต 1 ปีเศษ ระหว่างระยะเวลาที่ได้รับบาดเจ็ดบจนถึงเวลาที่ขอเอาประกันชีวิตนายเทียนเต็กอาจได้รับการบำบัดรักษาเรื่อยมาจนอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้นนายแพทย์วิชาญผู้ตรวจร่างการยนายเทียนเต็กจึงระบุว่าสุขภาพปกติเหมือนบุคคลทั่วไป จำเลยก็มิได้นำสืบว่าอาการบาดเจ็บที่นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมเร็วกว่าระยะเวลาในสัญญาประกันชีวิตและเหตุที่นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมก็มิใช่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เคยได้รับจากการถูกยิง ฉะนั้นการที่นายเทียนเต็กมิได้แถลงว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงไม่อาจอนุมานได้ว่า ถ้าเปิดเผยข้อความจริงเช่นนั้นจะจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาหรือเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้นอันจะทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยจึงบอกล้างไม่ได้และต้องรับผิดใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share