คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำรับของจำเลยที่รับว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ได้ทำไปโดยการป้องกันตัวนั้น ถือว่าไม่ใช่คำรับสารภาพตามฟ้องตามที่กำหนดไว้ใน ป.ม.วิ.อาญา ม.176 จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่ต้องนำสืบตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษ ถ้าโจทก์ไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การขอพะยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเกียวกัน ศาลก็ไม่รับฟังคำพะยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้มีดฟันนายแสวงบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๕๖ และเพิ่มโทษตามมาตรา๗๒
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ฟันนายแสวงทีหนึ่งเพื่อป้องกันตัว และทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
ในการพิจารณา โจทก์จำเลยตกลงแถลงขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยถือเอาคำให้การพะยานที่ได้สืบมาแล้วในคดีแดงที่ ๑๖๖๗, ๑๖๖๘/๒๔๘๘ นั้น เป็นหลักวินิจฉัยต่อไป โดยโจทก์ขออ้างเอาคำให้การของนายยาว นายแสวงที่ให้การแล้วเป็นพะยาน และขอสืบนายแดง แพทย์ส่วนจำเลยจำเลยขอสืบนายแป๋งปากเดียว นอกนั้นขอถือเอาคำให้การของพะยานในสำนวนก่อนเป็นพะยาน เพราะเป็นมูลกรณีเดียวกัน เมื่อสืบพยานสองคนนั้นแล้ว ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำร้ายร่างกายนายแสวงจริงจึงพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญามาตรา ๒๕๖, ๗๒.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลจะยกเอาคำพยานคดีเรื่องก่อนมาลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะไม่ได้กระทำต่อหน้าจำเลยในคดีนี้ และแม้จะถือว่า จำเลยมีหน้าที่นำสืบในเรื่องป้องกัน พยานของจำเลยที่สืบเพียงปากเดียวนั้น โจทก์ไม่มีพยานหักล้างก็ต้องรับฟังว่าจำเลยได้ทำร้ายนายแสวงโดยเจตนาป้องกันทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรรับอาญา จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา, ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์จำเลยต่างนำสืบพยานบุคคลมาสืบแต่เพียงฝ่ายละ ๑ ปาก ซึ่งไม่มีน้ำหนักประการใด และเมื่อพะยานที่นำสืบเป็นเช่นนั้นแล้ว จะเชื่อเอาแต่เพียงคำพะยานในคดีอาญาของศาลจังหวัดนคราชสีมาแดงที่ ๑๖๖๗, ๑๖๖๘/๒๔๘๘ มาฟังว่าจำเลยกระทำผิดหาได้ไม่ จริงอยู่จำเลยให้การรับว่าได้ทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่จำเลยก็ได้ต่อสู้ว่าทำไปในการป้องกันตัว จึงไม่ใช่ให้การรับสารภาพตามฟ้อง ดังที่กำหนดไว้ใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา๑๗๖ เพราะฟ้องของโจทก์มีความหมายว่าจำเลยได้กระทำความผิดอันควรต้องรับโทษตามกฎหมาย จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่นำสืบตามที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๗๔ เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษ
จึงพิพากษายืน

Share