คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านโจทก์ ซึ่งแม้จะไม่ปรากฏในสำนวนว่า ขณะที่ยื่นคำฟ้องบ้านพิพาทอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท หรือไม่ แต่ก็ได้ความตามคำฟ้องว่าโจทก์ซื้อบ้านพิพาทจากการขายทอดตลาดในราคา 35,000 บาทโดยไม่ปรากฏว่าบ้านพิพาทอยู่ในทำเลการค้าอันจะทำให้ค่าเช่าบ้านสูงเป็นพิเศษแต่อย่างใด เชื่อได้ว่าบ้านดังกล่าวอาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ฉะนั้น การที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ซื้อบ้านพิพาทโดยไม่สุจริต จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านเลขที่ 165 โดยซื้อจากการขายทอดตลาดในราคา 35,000 บาท หลังจากซื้อบ้านดังกล่าวแล้วโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยพร้อมบริวารอยู่อาศัยในบ้านของโจทก์ จึงบอกกล่าวให้จำเลยพร้อมบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยพร้อมบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากบ้านของโจทก์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำพิพากษา

จำเลยให้การว่า โจทก์ซื้อและได้บ้านพิพาทมาจากการขายทอดตลาดโดยมิชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากมิได้เป็นบ้านของจำเลย โจทก์ไม่สามารถจะทำการบังคับคดีเอาทรัพย์สินดังกล่าวมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลได้ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยพร้อมทั้งบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากบ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยขะยูง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากบ้านของโจทก์เลขที่ 165 หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยขะยูง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีแม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่าในขณะยื่นคำฟ้องบ้านพิพาทอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทหรือไม่ แต่ได้ความตามคำฟ้องว่า โจทก์ซื้อบ้านพิพาทจากการขายทอดตลาดในราคา 35,000 บาท บ้านพิพาทอยู่ที่ตำบลห้วยขะยูง อำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี ไม่ปรากฏว่าอยู่ในทำเลการค้าอันจะทำให้ค่าเช่าบ้านพิพาทสูงเป็นพิเศษแต่อย่างใด เชื่อว่า บ้านพิพาทอาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องได้ไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ซื้อบ้านพิพาทโดยไม่สุจริตนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share