แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อ ก.ม.ทั้งปวงอันคู่ความฎีการ้องอ้างอิงให้แสดงไว้โดยชัดเจนในฎีกา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2 3 อีกฝ่ายหนึ่งวิวาทกันถึงบาดเจ็บขอให้ลงโทษตามม.254,338 จำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ม. 254 + และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยทั้ง3 มีบาดเจ็บดังนี้จำเลยจะฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อก.ม.
จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลย ม. 338 บทเดียวโดยกล่าวอ้างถึงตัวจำเลยว่าแพทย์ออกความเห็นว่ารักษาไม่เกิน 1 วัน หาย ไม่ใช่หมายถึงผู้ถูกทำร้าย (ตาม ม.338)และอ้างว่าจำเลยเป็นนักศึกษา ดังนี้เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.195 เพราะไม่ชัดเจนว่าฎีกาในข้อ ก.ม.ข้อไหนอย่างไร (จะค้านว่าบาดแผลอีกฝ่ายคือจำเลย 2,3 ไม่ถึงบาดเจ็บก็เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม จะค้านว่า ที่ศาลล่างฟังว่าบาดแผลอีกฝ่ายบาดเจ็บนั้น โดยข้อ ก.ม.แล้วถือว่าไม่ถึงบาดเจ็บอาศัย ก.ม.ข้อใด อย่างใด จำเลยไม่ได้กล่าว)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านายสมานจำเลยที่ ๑ ฝ่านหนึ่ง นายสวัสดิ์ จำเลยที่ ๒ และนายพัด จำเลยที่ ๓ อีกฝ่ายหนึ่งต่างสมัครวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันที่หน้าโรงภาพยนต์สหดารา อันเป็ฯที่สาธารณะสถาน ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๔,๓๓๘
จำเลยทั้ง ๓ รับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม. อาญาม.๒๕๔,๓๓๘ ให้จำคุกคนละ ๔ เดือน ปรับคนละ ๑๖๐ บาท จำเลยที่ ๑ อายุไม่เกิน ๒๐ ปี คงลงโทษกึงหนึ่งตาม ม.๕๘ ทวิ และจำเลยทุกคนรับสารภาพลดให้กึ่งหนึ่งตาม ม. ๕๙ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ , ๑เดือน ปรับ ๔๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละ ๒ เดือน ปรับคนละ ๘๐ บาท แต่ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง ๓ ไว้ภายใน ๓ ปี ตาม ม.๔๑ , ๔๒ คงปรับสถานเดียว
นายสมานจำเลยที่ ๑ ผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายสมานจำเลยที่๑ ฎีกา ขอให้ลงโทษปรับสถานเดียวตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๘
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.๒๒๐ จะฎีกาได้เฉพาะข้อ ก.ม. เท่านั้น แต่ ข้อ ก.ม.ที่อ้างอิงจะต้องแสดงให้ชัดเจนตาม ป. วิ.อาญา ม. ๑๙๕ ตามฎีกาของจำเลยเป็นแต่กล่าวถึงตัวจำเลยว่าแพทย์ออกความเห็นว่ารักษาไม่เกิน ๑ วันหาย (หมายถึงตัวจำเลยผู้ฎีกา) ไม่ใช่หมายถึงผู้ถูกทำร้าย และอ้างว่าจำเลยเป็นนักศึกษาแล้วก้ขอให้ปรับสถานเดียวตาม ม. ๓๓๘ ไม่ชัดเจนว่าฎีกาปรับปัญหาข้อ ก.ม.ในข้อไหนว่าอย่างไร จึงให้ยกฎีกา