แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นฟ้องพร้อมกับคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคห้า แต่โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งและศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์นั้นแล้ว โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลพิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามมาตรา 156 วรรคสี่อีก หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ให้ที่ดินแก่จำเลยซึ่งเป็นบุตร จำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาถอนคืนการให้ที่ดินดังกล่าว โดยยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของโจทก์เพราะยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลา โจทก์ยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า ศาลชั้นต้นยกคำร้องของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในกำหนด 10 วัน นับตั้งแต่วันทราบคำสั่ง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ และโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นนั้นแล้ว โจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนได้อีกหรือไม่ ในปัญหานี้เห็นว่าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์แล้ว หากโจทก์ไม่พอใจคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าว โจทก์มีสิทธิที่จะดำเนินการตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ หรือวรรคห้า บัญญัติไว้ โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่อ อนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ หรืออุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า ซึ่งแม้โจทก์มีสิทธิที่จะเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาเช่นนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่จำต้องเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ก่อนและอาจข้ามไปดำเนินกระบวนพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้าได้ก็ตามแต่การที่กฎหมายบัญญัติทางแก้ที่ผู้ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปในกรณีที่ผู้นั้นไม่พอใจคำสั่งของศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้ยกคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไว้ตามวรรคสี่และวรรคห้าของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156นั้น เห็นได้ว่าเป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติขั้นตอนที่ผู้ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคห้า แต่โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งและศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์นั้นแล้ว โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลพิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่อีก หาได้ไม่ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน