แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยและผู้เสียหายต่างทำงานอยู่ที่สำนักงานที่ดินแห่งเดียวกัน การที่มีผู้ไปติดต่อขอรับมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินดังกล่าวโดยได้ไปติดต่อกับผู้เสียหายก่อนแล้วจึงไปสอบถามจำเลยในลักษณะที่มีมูลทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้เสียหายได้เรียกเอาเงินจากผู้ไปติดต่อ อันเป็นการมิชอบ จำเลยจึงแจ้งเรื่องให้ ศ. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทั้งของตนและของผู้เสียหายทราบเพื่อจะได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไปนั้น เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยได้แสดงความคิดเห็นหรือข้อความที่ถูกกล่าวหาโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ ให้จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด ๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันเกิดเหตุจำเลยได้บอกนางศุภลักษณ์เจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอำเภอสารภีว่า ผู้เสียหายได้เรียกร้องเอาเงินจากนางสาวไพรินทร์ผู้มาติดต่อขอรับมรดกที่ดินเป็นเงิน ๕๐๐ บาท อ้างว่าจะเอาไปให้นางศุภลักษณ์ และได้ความว่านางสาวไพรินทร์พยานโจทก์มาถามจำเลยว่า เรื่องโอนที่ดิน เมื่อถึงกำหนดแล้วจะต้องใช้เงินด้วยหรือ จำเลยถามว่าเรื่องเป็นอย่างไร พยานบอกว่า น้า (หมายถึงนางปิยะพรผู้จะซื้อที่ดิน) บอกว่าจะต้องให้เงินเขา ๕๐๐ บาทแต่จะให้ใครไม่ทราบ จำเลยจึงถามว่าผู้เสียหายเรียกร้องหรือเปล่า พยานว่าไม่ได้เรียกร้องวันรุ่งขึ้นจำเลยได้ไปเล่าให้นางศุภลักษณ์ฟังว่าผู้เสียหายเรียกร้องเอาเงินดังกล่าวแล้วเห็นว่า แม้นางสาวไพรินทร์พยานโจทก์จะเบิกความว่า ผู้เสียหายมิได้เรียกร้องเอาเงินจากตนก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงได้ความจากพยานโจทก์ดังกล่าวด้วยว่าในวันที่พยานไปติดต่อขอรับมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินอำเภอสารภีซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทั้งผู้เสียหายและจำเลยต่างประจำทำงานอยู่นั้น พยานได้ไปติดต่อเรื่องกับผู้เสียหายก่อนแล้วจึงได้ไปสอบถามจำเลยเกี่ยวกับเรื่องที่จะต้องมีการให้เงินจำนวน ๕๐๐ บาทกันนั้น ดังนี้กรณีจึงย่อมจะมีมูลทำให้จำเลยเข้าใจได้ว่าผู้เสียหายได้เรียกร้องเอาเงินจากผู้ไปติดต่อขอโอนที่ดินอันเป็นการมิชอบ ดังนั้นเมื่อมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นจำเลยซึ่งเป็นข้าราชการประจำอยู่ณ สำนักงานที่ดินดังกล่าว มีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถือได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียผู้หนึ่ง จึงชอบที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของตนได้ การที่จำเลยแจ้งเรื่องให้นางศุภลักษณ์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทั้งของตนและของผู้เสียหายทราบเพื่อจะได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไปนั้นคดีจึงฟังได้ว่าจำเลยได้แสดงความคิดเห็นหรือข้อความที่ถูกกล่าวหาโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๙(๑) จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน