คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของสามยทรัพย์ ไม่ใช่เจ้าของรวมในภารยทรัพย์ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องในคดีอาญาขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ภารยทรัพย์เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจาก พ. ในวันซื้อขาย พ. ได้จดทะเบียนที่ดินของ พ. อันเป็นทางราดซิเมนต์ ซึ่งอยู่ติดต่อกับที่ดินที่โจทก์ซื้อให้ตกเป็นภารจำยอมสำหรับที่ดินของโจทก์ที่ซื้อจาก พ. แล้วจำเลยกับพวกร่วมกันทำลายทางราดซิเมนต์อันเป็นภารยทรัพย์จนเสียหายใช้เป็นทางเดินตามปกติไม่ได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 83, 84

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายแล้วพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของที่ดินภารยทรัพย์จะต้องยอมรับกรรมบางอย่าง หรืองดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387, 1390 และ 1391แต่การที่ต้องยอมรับกรรมบางอย่าง หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างในภารยทรัพย์นั้น หาได้ทำให้เจ้าของสามยทรัพย์มีฐานะเป็นเจ้าของรวมในภารยทรัพย์ไปด้วยไม่ เมื่อถนนในที่ดินภารยทรัพย์นั้นไม่ใช่ของโจทก์และโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ถนนนั้นเสียหาย

พิพากษายืน

Share