แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชายมีภรรยาอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 ครั้นเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 แล้วมีภรรยาอีกคนหนึ่ง แม้จะได้ทะเบียนสมรสกับภรรยาคนหลังนี้การสมรสนั้นก็เป็นโมฆะภรรยาคนหลังจึงไม่มีสิทธิได้รับมรดกของชายผู้ เป็นสามี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องกับบ้านปลูกอยู่ในที่บ้าน ๑ หลังเป็นของโจทก์ ได้รับมรดกจากบิดาครอบครองมาฝ่ายเดียว แล้วมาได้นายร่วงเป็นสามีก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ ๕ ต่อมานายร่วงได้จำเลยเป็นภรรยาน้อยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะได้ภายหลังใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ ๕ นายร่วงถึงแก่กรรม โจทก์เสียใจไปเที่ยวได้พูดฝากทรัพย์สินให้จำเลยปกครองแทน โจทก์เดินทางไปติดสงครามอยู่ทางกรุงเทพฯ ได้บวชชีอยู่ที่นั่นหลายปี จึงกลับมาขอทรัพย์คืน จำเลยอ้างว่าเป็นของจำเลยโจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย และให้ศาลแสดงกรรมสิทธิในทรัพย์
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นภรรยานายร่วง จดทะเบียนสมรสกันโดยชอบ นายร่วงตายจำเลยประกาศขอรับมรดกจากนายร่วงโดยชอบ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์เป็นภรรยานายร่วงอยู่ก่อนแล้ว การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายร่วงจึงเป็นโมฆะ จำเลยไม่ใช่ภริยานายร่วง ไม่มีสิทธิรับมรดกนายร่วง จึงพิพากษาว่าบ้านที่บ้านและสวนเป็นของโจทก์ให้ขับไล่จำเลย ส่วนนา ๔ แปลงจำเลยได้สิทธิครอบครองแล้ว ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์
จึงพิพากษายืน