คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์นำช่างแผนที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินจำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิในที่พิพาทว่าเป็นของจำเลยโดยได้ครอบครองมา ทั้งได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ว่าถูกต้อง ดังนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยได้เคยครอบครองที่พิพาทมาก่อน ก็ถือได้ว่าจำเลยสละเจตนาครอบครองที่พิพาทแล้ว การครอบครองที่มีมาก่อนย่อมสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 การครอบครองของจำเลยซึ่งเริ่มนับใหม่หลังจากวันที่จำเลยรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ถึงวันฟ้องยังไม่ครบ 10 ปี จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าปลูกต้นผลไม้ในที่ดินโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและให้ถอนต้นผลไม้ออกไปจากที่พิพาท

จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย และให้รื้อถอนสิ่งที่จำเลยปลูกออกไปห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องที่พิพาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทและปลูกต้นมะพร้าวเป็นแนวเขตในที่พิพาทเป็นเวลากว่า 10 ปีที่พิพาทเป็นของจำเลยโดยการครอบครองนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อปีพ.ศ. 2516 โจทก์ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานที่ดินขอแบ่งแยกที่ดินบางส่วนในโฉนดเลขที่ 1703 ออกไปอีก 2 แปลง เพื่อแบ่งขายให้นางอิ่มแปลงหนึ่งและอีกแปลงหนึ่งคือที่พิพาทนั้น ช่างแผนที่ได้ออกไปทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดิน จำเลยในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงก็ได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินที่โจทก์นำชี้ว่าถูกต้องดังปรากฏตามบันทึกถ้อยคำ รับรองเขตติดต่อของเจ้าของที่ดินและเจ้าของที่ดินข้างเคียงลงวันที่ 18 กันยายน 2516 เอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 3 และ 4 ซึ่งตามเอกสารดังกล่าวแสดงว่าจำเลยรับรองที่พิพาทเป็นของโจทก์ ที่จำเลยฎีกาว่าตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 3มีข้อความตอนหนึ่งว่าโจทก์จะแบ่งที่พิพาทให้จำเลย จำเลยจึงไม่คัดค้านและลงชื่อเป็นพยานรับรอง กรณีถือว่าโจทก์สละสิทธิในที่พิพาทให้แก่จำเลยในลักษณะคำมั่นที่จะแบ่งที่พิพาทให้นั้นจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้คดีไม่มีประเด็นดังกล่าว เมื่อปรากฏว่าในวันที่โจทก์นำช่างแผนที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินจำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิในที่พิพาทว่าเป็นของจำเลยโดยได้ครอบครองมา ทั้งได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ว่าถูกต้องเช่นนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยได้เคยครอบครองที่พิพาทมาก่อน ก็ถือได้ว่าจำเลยสละเจตนาครอบครองที่พิพาทแล้วการครอบครองที่มีมาก่อนย่อมสิ้นสุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377 การครอบครองของจำเลยซึ่งเริ่มนับใหม่หลังจากวันที่จำเลยรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ถึงวันฟ้องยังไม่ครบ 10 ปี จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์

พิพากษายืน

Share