คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 325/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จะได้แจ้งการครอบครองแล้ว แต่เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ย่อมไม่อาจโอนกันได้ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 9 แต่ย่อมโอนไปซึ่งการครอบครองได้โดยการส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงขายที่ดินให้โจทก์ ๒ แปลง แปลงแรกราคา ๑,๙๐๐ บาท จำเลยรับชำระเงินไปจากโจทก์แล้ว ๑,๘๐๐ บาท ส่วนอีกแปลงหนึ่งโจทก์ชำระราคาให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้ว จำเลยมอบที่ดินทั้งสองแปลงให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ตลอดมา โจทก์ให้จำเลยโอนที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรับค่าที่ดิน ๑๐๐ บาทจากโจทก์ และให้จำเลยไปจัดการโอนที่ดินทั้งสองแปลงทางทะเบียนให้โจทก์ หากจำเลยไม่ไปจัดการโอน ให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า ตามสัญญาจะซื้อขาย ลงความกว้างทางทิศตะวันออกและตะวันตกของที่ดินแปลงแรกผิดไป โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยไปจัดการโอนที่ดินให้จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
นายแหม เกปัน ซึ่งถูกศาลเรียกเข้ามาในคดีเป็นจำเลยร่วมให้การว่า ได้ซื้อที่ดินจากจำเลยทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ของที่ดินพิพาทรวมที่ดินบางส่วนของที่พิพาทด้วย และได้ครอบครองที่ดินที่ซื้อมาก่อนที่โจทก์จะเข้าครอบครองที่ดินส่วนกลาง ที่ดินดังกล่าวเป็นเพียงที่ดินที่มีแบบแจ้งการครอบครอง โจทก์ไม่มีอำนาจขอให้ศาลบังคับให้จำเลยและจำเลยร่วมโอนให้โจทก์ทางทะเบียน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยตกลงขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ก่อนที่จะขายให้จำเลยร่วม จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะนำที่ดินที่ตกลงขายให้โจทก์แล้วไปขายให้จำเลยร่วม โจทก์มีสิทธิขอให้ศาลบังคับให้จำเลยไปโอนที่พิพาทให้โจทก์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ พิพากษาให้จำเลยรับเงินจากโจทก์ ๑๐๐ บาท และให้ไปจัดการโอนที่ดินแก่โจทก์ หากไม่ไปโอน ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยและจำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยและจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จะได้แจ้งการครอบครองแล้ว แต่เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ย่อมไม่อาจโอนกันได้ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๙ แต่ย่อมโอนไปซึ่งการครอบครองได้ด้วยการส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๘
พิพากษาแก้ให้จำเลยรับเงิน ๑๐๐ บาทจากโจทก์ และให้จำเลยกับจำเลยร่วมส่งมอบการครอบครองที่ดินให้โจทก์ หากจำเลยและจำเลยร่วมไม่ส่งมอบ ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย คำขอโจทก์นอกจากนี้ให้ยก

Share