แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารมีข้อความว่า โจทก์จำเลยต่างแสดงความประสงค์ จะขอให้ช่างแผนที่ของสำนักงานที่ดินออกไปรังวัดที่ดินของตนเพื่อให้ทราบเขตที่แน่นอนของโจทก์และจำเลยแต่ละฝ่ายดังนี้ ไม่มีลักษณะที่จะระงับข้อพิพาทของคู่กรณีโดยต่างฝ่ายยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนดคนละแปลงซึ่งมีเขตที่ดินติดต่อกัน โจทก์จำเลยได้ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความมีใจความว่า ต่างฝ่ายตกลงยินยอมไปยื่นขอสอบเขตที่สำนักงานที่ดินจังหวัด เพื่อให้ช่างแผนที่ออกไปทำการรังวัด เพื่อทราบเขตและถือเป็นแนวเขตที่แน่นอน โจทก์จำเลยได้ลงลายมือชื่อไว้ ครั้นช่างแผนที่ไปรังวัดจำเลยกลับขัดขวางไม่ยอมให้รังวัดเป็นการผิดข้อตกลง ขอให้ห้ามจำเลยมิให้ขัดขวางในการที่ช่างรังวัดจะรังวัดปักหลักเขตเพื่อถือเป็นแนวเขตที่แน่นอนระหว่างโจทก์จำเลย
จำเลยทั้งสองให้การว่า บันทึกของนายอำเภอตามฟ้องไม่ใช่เป็นหนังสือประนีประนอมยอมความ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า เอกสารหมาย จ.4 และ จ.6 มิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสารทั้งสองฉบับมีข้อความเพียงว่า โจทก์จำเลยต่างแสดงความประสงค์จะขอให้ช่างแผนที่ของสำนักงานที่ดินออกไปรังวัดที่ดินของตนเพื่อให้ทราบเขตที่แน่นอนของโจทก์และจำเลยแต่ละฝ่ายเท่านั้น เอกสารดังกล่าวหามีลักษณะที่จะระงับข้อพิพาทของคู่กรณีโดยต่างฝ่ายยอมผ่อนผันให้แก่กันแต่อย่างใดไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์จำเลยต่างแถลงตกลงกันว่า “ให้เจ้าพนักงานออกไปรังวัดสอบเขตที่ดินโดยวิธีปูโฉนด หากไม่สามารถปูโฉนดได้ก็ให้เจ้าพนักงานรังวัดตามแนวหมุดในโฉนด ถ้าไม่สามารถหาหมุดแน่นอน ก็ให้คู่ความนำชี้แนวเขตของแต่ละฝ่าย เพื่อจะได้ทราบแนวเขตที่ดินของแต่ละฝ่ายก่อน และเมื่อผลการรังวัดออกมาแล้ว โจทก์จำเลยอาจมีทางตกลงกันได้ หรือโจทก์อาจจะถอนฟ้องคดีนี้ไป เพื่อดำเนินคดีใหม่หากปรากฏจากการรังวัดว่ามีการบุกรุกที่ดินกัน ” เมื่อพิจารณาข้อความดังกล่าวประกอบด้วยแล้ว ยิ่งเห็นได้ว่าเจตนาของคู่กรณีมีเพียงจะขอให้ช่างแผนที่ออกไปรังวัดที่ดินของแต่ละฝ่าย เพื่อทราบเขตที่แน่นอนในเบื้องต้นก่อนเท่านั้น เมื่อผลทางการรังวัดออกมาในรูปใด โจทก์จำเลยยังจะต้องไปเจรจาปรองดองกันอีก หากมีการรุกที่ดินกัน โจทก์ก็อาจถอนฟ้องคดีนี้ไป เพื่อดำเนินคดีเข้ามาใหม่ ฉะนั้นบันทึกดังกล่าวจึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
พิพากษายืน