คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3243/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์มีอาชีพเป็นพ่อค้าย่อมจะทราบถึงวิธีการเรื่องเช็คเป็นอย่างดีว่า การรับเช็คโดยไม่รู้จักตัวผู้สั่งจ่ายนั้นย่อมเป็นการเสี่ยงเพราะไม่มีโอกาสทราบฐานะการเงินของผู้สั่งจ่ายได้ฉะนั้น การที่โจทก์รับเช็คซึ่งผู้มีชื่อ นำมาแลกเงินโดยไม่ได้ให้ผู้นั้นสลักหลังเช็คเอาไว้เพื่อการใช้สิทธิไล่เบี้ย ทั้งไม่ได้นำมาเบิกความอธิบายถึงวิธีการที่ผู้มีชื่อ ได้รับเช็คมาพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นพิรุธ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริต ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คแก่ตน ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค
จำเลยให้การว่า จำเลยออกเช็คดังกล่าวจริง แต่เช็คนั้นได้หายไป จำเลยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนและได้แจ้งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์รับเช็คมาโดยไม่สุจริตและคบคิดกับผู้มีชื่อฉ้อฉลจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คพิพากทเอกสารหมาย จ.1 มีปัญหาว่าจำเลยต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย และเช็คดังกล่าวเป็นเช็คชนิดออกให้ผูถือจำเลยต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้โจทก์ จำเลยเบิกความว่าได้ออกเช็คพิพาทตามเอกสารหมาย จ.1 เพื่อจะร่วมลงทุนค้าขายกับนายฉัตรชัยธรรมเสนา จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่าย แต่ยังมิได้ลงวันสั่งจ่ายในเช็คพิพาทต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 24 เมษายน 2527 นายฉัตรชัยมารับเช็คดังกล่าวปรากฏว่าเช็คหายไป จำเลยจึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธธอำเภอเมืองลำพูน ตามบันทึกแจ้งความเอกสารหมาย ล.1เช็คพิพาทเอกสารหมาย จ.1 ในช่องวันสั่งจ่ายมิใช่ลายมือจำเลยแต่เป็นการประทับตราวันเดือนปี ฟังได้ว่าจำเลยมิได้ลงวันสั่งจ่ายด้วยลายมือของจำเลย และจำเลยได้แจ้งความว่าเช็คของจำเลยหายไปจริงโจทก์เบิกความว่านางบุญทวี ที่ปรึกษาได้นำเช็คพิพาทมาแลกเงินโจทก์โดยมิได้ให้นางบุญทวีลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คดังกล่าวไว้เห็นว่าโจทก์ไม่เคยรู้จักจำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทมาก่อน จำนวนเงินในเช็คมีจำนวนสูงถึง 60,000 บาท โจทก์มีอาชีพเป็นพ่อค้าย่อมจะทราบถึงวิธีการเรื่องเช็คเป็นอย่างดีว่า การรับเช็คซึ่งไม่รู้จักตัวผู้สั่งจ่ายนั้นย่อมเป็นการเสี่ยงเพราะไม่มีโอกาสทราบฐานะการเงินของผู้สั่งจ่ายได้ โจทก์น่าจะให้นางบุญทวีลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คไว้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินและเรียกเงินจากจำเลยผู้สั่งจ่ายไม่ได้ โจทก์ยังจะมีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สลักหลังได้ แต่โจทก์หาได้ให้นางบุญทวีสลักหลังเช็คพิพาทไว้ไม่ นับว่าเป็นเรื่องผิดวิสัยของผู้ซึ่งเคยใช้เช็คทั่ว ๆ ไป ทั้งโจทก์ไม่นำนางบุญทวีมาเบิกความยืนยันว่านางบุญทวีได้นำเช็คมาแลกเงินจากโจทก์จริง และนางบุญทวีจะได้มีโอกาสอธิบายถึงวิธีการที่ได้รับเช็คพิพาทมาโดยสุจริตเพื่อเป็นการหักล้างข้ออ้างของจำเลยที่ว่าเช็คพิพาทหายไป พฤติการณ์ของโจทก์จึงเป็นพิรุธอย่างยิ่ง รูปคดีฟังไม่ได้ว่านางบุญทวีนำเช็คพิพาทมาแลกเงินโจทก์ดังฟ้อง โจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริต โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ดจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่ตนได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมานันชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share