คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3209/2552

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 เป็นคู่สัญญากับโจทก์ในสัญญารับขนของทางทะเล โจทก์เป็นตัวแทนของสายการเดินเรือต่างประเทศหลายบริษัทรวมทั้งสายการเดินเรือของบริษัท ป. ผู้ขนส่ง โจทก์ทำหน้าที่รับจองตู้สินค้าและออกใบตราส่ง และตามใบตราส่งก็ปรากฏว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของตู้สินค้า และโจทก์ไม่มีสายการเดินเรือเป็นของตน ต่อมาโจทก์มอบสำเนาใบตราส่งให้แก่จำเลยที่ 1 ตามใบตราส่งก็ระบุไว้ชัดว่าโจทก์ออกใบตราส่งแทนบริษัท ป. ผู้ขนส่ง ต่อมาได้มีการชำระค่าระวางขนส่ง ค่าภาระหน้าท่า และค่าธรรมเนียมการออกใบขนส่งให้แก่โจทก์ โจทก์ได้มอบใบเสร็จรับเงินให้ ปรากฏว่าหลักฐานการรับเงินค่าระวางขนส่งและค่าภาระหน้าท่า โจทก์ได้ออกใบเสร็จรับเงินแทนบริษัท ป. ส่วนหลักฐานการรับเงินค่าธรรมเนียมการออกใบตราส่ง โจทก์ออกใบเสร็จรับเงินในนามของตนเอง บริษัท ป. จึงเป็นผู้รับชำระค่าระวางการขนส่งสินค้าครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัท ป. เป็นคู่สัญญากับผู้ส่งสินค้าในสัญญารับขนของทางทะเลครั้งนี้ มิใช่โจทก์ โจทก์เป็นเพียงตัวแทนของสายการเดินเรือของบริษัท ป. เมื่อบริษัท ป. ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ ทั้งกรณีนี้โจทก์ไม่อาจรับช่วงสิทธิได้ตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 32,858.15 ดอลลาร์สหรัฐ และจำนวน 1,303,980 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 32,258.15 ดอลลาร์สหรัฐ และจำนวน 1,303,980 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “…โจทก์มีแต่นายสุรชัยเพียงปากเดียวให้ถ้อยคำและเบิกความว่า จำเลยที่ 1 ได้ว่าจ้างโจทก์ให้ทำการขนส่งสินค้าครั้งนี้ ส่วนที่จำเลยที่ 1 ติดต่อจองเรือต่อโจทก์นั้นโจทก์อาจรับจองเรือในฐานะที่โจทก์เป็นตัวแทนผู้ขนส่งก็ได้ นอกจากนี้โจทก์ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 เป็นคู่สัญญากับโจทก์ในสัญญารับขนของทางทะเลดังกล่าว ทั้งนายสุรชัยก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านยอมรับว่า โจทก์เป็นตัวแทนของสายการเดินเรือต่างประเทศหลายบริษัทรวมทั้งสายการเดินเรือของบริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด ทั้งนายสุรชัยยังเบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่า คดีนี้โจทก์ทำหน้าที่รับจองตู้สินค้าและออกใบตราส่งเท่านั้น และตามใบตราส่งดังกล่าวก็ปรากฏว่า โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของตู้สินค้าดังกล่าวและโจทก์ไม่มีสายการเดินเรือเป็นของตน ตามคำเบิกความของนายสุรชัยดังกล่าวล้วนแต่เจือสมกับพยานหลักฐานจำเลยที่ 1 ซึ่งได้ความว่า โจทก์ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนของสายการเดินเรือรับส่งสินค้าหลายบริษัทรวมทั้งบริษัทแปซิฟิคอินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด จำเลยที่ 1 ได้จองตู้สินค้าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนสายการเดินเรือรับขนส่งสินค้า จากนั้นโจทก์แจ้งให้จำเลยที่ 1 ไปรับตู้สินค้าเสร็จแล้วนำไปมอบให้แก่บริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสายการเดินเรือที่รับขนส่งสินค้าครั้งนี้ ต่อมาโจทก์ได้มอบสำเนาใบตราส่งให้แก่จำเลยที่ 1 โดยตามใบตราส่งดังกล่าวก็ระบุไว้ชัดว่า โจทก์ออกใบตราส่งแทนบริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด ผู้ขนส่ง ต่อมาวันที่ 13 พฤศจิกายน 2543 ได้มีการชำระค่าระวางขนส่ง ค่าภาระหน้าท่า และค่าธรรมเนียมการออกใบตราส่งให้แก่โจทก์ ฝ่ายโจทก์ได้มอบใบเสร็จรับเงินให้ ปรากฏว่าหลักฐานการรับเงินค่าระวางขนส่งและค่าภาระหน้าท่าโจทก์ได้ออกใบเสร็จรับเงินแทนบริษัทสายการเดินเรือ ส่วนหลักฐานการรับเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบตราส่งโจทก์ออกใบเสร็จรับเงินในนามของตนเอง ดังนี้ บริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด เป็นผู้รับชำระค่าระวางการขนส่งสินค้าครั้งนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด เป็นคู่สัญญากับผู้ส่งสินค้าในสัญญารับขนของทางทะเลครั้งนี้มิใช่โจทก์ เห็นว่า พยานหลักฐานจำเลยที่ 1 มีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานโจทก์ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า บริษัทแฟซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด เป็นผู้ขนส่งสินค้าที่แท้จริง ส่วนโจทก์เป็นเพียงตัวแทนของสายการเดินเรือของบริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส์ (พีทีอี) จำกัด เมื่อบริษัทแปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ส (พีทีอี) จำกัด ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ ทั้งกรณีเช่นนี้โจทก์ไม่อาจรับช่วงสิทธิได้ตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น และกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยในอุทธรณ์ข้ออื่นๆ ของโจทก์อีก ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share