คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3202/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้สัญญาจ้างทำของระหว่างโจทก์จำเลยมีเงื่อนไขว่า จำเลยจะจ่ายเงินให้ภายใน 40 วัน นับแต่เจ้าของงานได้ผ่านการตรวจรับงานในงวดนั้นแล้ว และจะคืนเงินประกันผลงานหลังจากเจ้าของงานได้รับมอบงานงวดสุดท้ายของจำเลย และออกหนังสือรับรองการมอบงานแล้วรวมกับระยะเวลาการประกันผลงานอีก 1 ปี เมื่อเงื่อนไขดังกล่าวไม่อาจที่จะปฏิบัติได้ เพราะจำเลยได้บอกเลิกสัญญากับเจ้าของงานแล้ว การตรวจรับงานงวดที่ 3 งวดที่ 4 และงวดสุดท้ายจึงไม่อาจมีขึ้นได้ เงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นการพ้นวิสัย และถือว่าเงื่อนไขในข้อตกลงดังกล่าวไม่มี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2528 จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ทำการติดตั้งวงกบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมพร้อมกระจกเป็นเงิน 3,500,000 บาท ตกลงจ่ายค่าจ้างเป็นงวดตามผลงานภายใน 40 วัน นับแต่วันตรวจรับงาน หลังจากทำสัญญาแล้วโจทก์ได้ทำการติดตั้งวงกบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมพร้อมกระจกตามสัญญา ส่งมอบงานงวดที่ 1 ถึงงวดที่ 4 ให้จำเลยและบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด เจ้าของงานตรวจรับแล้ว ส่วนงานงวดที่ 3 และงวดที่ 4 โจทก์ส่งมอบให้จำเลยและเจ้าของงานตรวจรับเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2529 และวันที่ 14 ตุลาคม 2529 คิดเป็นเงินค่าจ้าง 532,963 บาท และ 469,891 บาท ซึ่งจำเลยจะต้องจ่ายเงินแก่โจทก์ภายใน 40 วัน ดังกล่าว แต่จำเลยมิได้จ่ายเงินค่าจ้างงวดที่ 3 และงวดที่ 4 ให้โจทก์ ต่อมาจำเลยขอระงับการทำงานตามสัญญากับโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา และมิใช่ความผิดของโจทก์ เนื่องจากจำเลยมีปัญหาในการก่อสร้างและได้บอกเลิกสัญญาก่อสร้างต่อเจ้าของงาน ทำให้โจทก์ไม่สามารถทำงานให้ครบถ้วนตามสัญญา จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ทวงถามให้จำเลยคืนเงินประกันผลงานของงานงวดที่ 1 งวดที่ 2 และค่าจ้างงวดที่ 3งวดที่ 4 แล้ว จำเลยเพิกเฉย รวมเงินที่จำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์1,108,397 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินค่าประกันผลงานงวดที่ 1 งวดที่ 2 นับแต่วันที่บอกกล่าวทวงถามและของต้นเงินค่าจ้างงานงวดที่ 3 งวดที่ 4 นับแต่วันครบกำหนด40 วันที่ตรวจรับงานรวมต้นเงินและดอกเบี้ย 1,267,102 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,108,397 บาท นับถัดวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า บริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด ค้างชำระค่าก่อสร้างแก่จำเลยประมาณ 13 ล้านบาท ต่อมาได้หยุดการจ่ายเงินค่าจ้างแก่จำเลย ซึ่งตามเงื่อนไขการจ่ายเงินกำหนดว่า ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างภายใน 40 วัน นับแต่วันที่ผู้ว่าจ้างได้ผ่านการตรวจรับงานจากบริษัทไวทเฮาซเทาเออ ดังนี้ เมื่อบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด หยุดการจ่ายค่าจ้างโดยยังมิได้ตรวจรับงานงวดที่ 3 และงวดที่ 4 จำเลยจึงยังไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง สำหรับเงินประกันผลงานที่จำเลยหักไว้ร้อยละ 10 ของงานงวดที่ 1 และงานงวดที่ 2 นั้น เมื่อบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด ยังไม่ได้ตรวจรับมอบงานสุดท้ายจากจำเลยหรือโจทก์นำหนังสือค้ำประกันมามอบแก่จำเลยตามเงื่อนไขในสัญญา จำเลยจึงยังไม่ต้องคืนเงินประกันผลงานแก่โจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 1,226,164.18 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน1,108,397 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกามีว่าบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด ยังไม่ได้ตรวจรับมอบงานงวดที่ 3และงวดที่ 4 จำเลยจะต้องจ่ายค่าจ้างและคืนเงินประกันผลงานแก่โจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ได้ส่งมอบงานงวดที่ 3และงวดที่ 4 โดยนายนกนหรือนิกน สุขสด ซึ่งเป็นนายช่างของจำเลยมีหน้าที่ควบคุมดูแลงานก่อสร้างโครงการไวทเฮาซเทาเออซึ่งจำเลยเป็นผู้รับจ้างได้ลงชื่อท้ายข้อความในเอกสารหมาย จ.7 ว่าอนุมัติจ่ายตามรายการได้ และตามเอกสารหมาย จ.8 ว่า ตัดรายชั้นที่ 13เป็นเงิน 19,260 บาท นอกจากนี้แล้วผลงานสามารถเบิกเงินได้โดยประทับตราของจำเลยในเอกสารดังกล่าวทั้งสองฉบับ แสดงว่างานงวดที่ 3 และงวดที่ 4 ตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างระหว่างโจทก์จำเลยตามเอกสารหมาย จ.3 โจทก์ได้ทำการแล้วเสร็จและส่งมอบงานแล้วซึ่งไม่ปรากฏว่ามีการทักท้วงจากจำเลยว่าไม่ถูกต้องแต่อย่างใดกลับได้ความจากนายสมศักดิ์ สมบูรณ์ทรัพย์ พยานจำเลยซึ่งควบคุมงานโครงการไวทเฮาซเทาเออ โดยทำหน้าที่เป็นนายช่างโครงการมีอำนาจควบคุมงานก่อสร้าง ควบคุมเอกสารเกี่ยวกับการตรวจงานของผู้ว่าจ้างช่วง และมีอำนาจตั้งคณะกรรมการตรวจสอบงานที่โจทก์ส่งมอบโดยตั้งนายอรรณพ ใจอ่อนน้อม ซึ่งเป็นนายช่างควบคุมงานการที่จำเลยไม่ทำการก่อสร้างต่อเนื่องจากบริษัทไวทเฮาซเทาเออจำกัด ค้างชำระค่าจ้างและจำเลยได้บอกเลิกสัญญาต่อบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด แล้ว ดังนี้ ตามสัญญาข้อ 5 ในเอกสารหมาย จ.3 ที่ว่า “ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเป็นงวด ๆ ละ 1 เดือน ตามผลงานที่ผู้รับจ้างทำเสร็จจริงและได้ผ่านการตรวจรับจากเจ้าของงานแล้ว โดยผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างภายใน 40 วัน นับแต่วันที่ผู้ว่าจ้างได้ผ่านการตรวจรับงานจากบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด และผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินไว้เป็นจำนวนร้อยละ 10 ของจำนวนเงินค่าจ้างที่ได้รับ เพื่อเป็นการประกันผลงาน และผู้ว่าจ้างจะคืนเงินที่หักไว้นี้ให้แก่ผู้รับจ้างหลังจากที่บริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัดได้รับมอบงานงวดสุดท้ายของผู้ว่าจ้าง และออกหนังสือรับรองการมอบงานแล้วรวมกับระยะเวลาการประกันผลงานอีก 1 ปี นับแต่วันรับมอบงานหรือผู้รับจ้างจะขอรับเงินดังกล่าวคืนได้ โดยมีหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่เชื่อถือได้มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างแทน”นั้น การตรวจรับงานโดยบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด จึงเป็นเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าจ้างและการคืนเงินประกันผลงานที่จำเลยหักไว้ เมื่อเงื่อนไขดังกล่าวไม่อาจที่จะปฏิบัติไดัเพราะจำเลยได้บอกเลิกสัญญากับบริษัทไวทเฮาซเทาเออ จำกัด แล้วการตรวจรับงานงวดที่ 3 งวดที่ 4 และงวดสุดท้าย โดยบริษัทไวทเฮาซเทาเออจำกัด จึงไม่อาจมีขึ้นได้เงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นการพ้นวิสัยและถือว่าเงื่อนไขในข้อตกลงดังกล่าวไม่มี เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ส่งมอบงานงวดที่ 3 และงวดที่ 4 ให้แก่จำเลยตามเอกสารหมาย จ.7 และ จ.8 โจทก์ได้บอกกล่าวทวงถามแล้วตามเอกสารหมาย จ.13 และ จ.14 จำเลยจึงต้องชำระเงินค่าจ้างงานงวดที่ 3และงวดที่ 4 และคืนเงินประกันผลงานให้แก่โจทก์
พิพากษายืน

Share