คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายกับจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องโคของบิดาจำเลยกับพวกก่อนแล้วผู้ตายใช้มีดยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลยถูกแขนทะลุ จำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายไล่ตามขึ้นไปถือมีดจ้องแทงจำเลย จำเลยหนีต่อไปไม่ได้ติดฝาระเบียงเรือน จึงหยิบขวานที่พื้นเรือนตรงนั้นแกว่งตีไป 2-3 ที ถูกศีรษะผู้ตายตกลงพื้นดินแล้วจำเลยโดดเรือนหนีไป ดังนี้เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2510 เวลากลางวัน จำเลยใช้ขวานฟันทำร้ายร่างกายนายมิตร คงกลับ โดยเจตนาฆ่า ถูกตามร่างกายหลายแห่ง นายมิตรทนพิษบาดแผลไม่ได้ถึงแก่ความตายสมเจตนาจำเลยเหตุเกิดที่ตำบลสวนหลวง อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และขอให้ริบของกลาง

จำเลยให้การรับว่า ฟันผู้ตายจริง แต่เพื่อป้องกันตัว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า พยานจำเลยไม่พอฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพื่อป้องกัน พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ลงโทษประหารชีวิต ปรานีลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78, 52คงจำคุกจำเลย 20 ปี ขวานของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุพิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ ไม่ริบขวานของกลาง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่าผู้ตายกับพวกพากันไปที่บ้านจำเลยแล้วเกิดโต้เถียงกันเรื่องโคของนายเพิ่มบิดาจำเลยกับพวกถูกปล้น ผู้ตายได้กระชากมีดปลายแหลมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลย จำเลยใช้มือซ้ายปัดมีด ๆ ถูกจำเลยที่แขนทะลุจากข้างบนลงข้างล่างของแขน จำเลยหันหลังวิ่งขึ้นเรือน ผู้ตายถือมีดไล่ตามจะแทงจำเลย ผู้ตายก้าวขึ้นระเบียงเท้าหนึ่ง เท้าอีกข้างหนึ่งอยู่ที่ไม้รองเหยียบขึ้นเรือน ห่างกับจำเลย 1 ศอกเศษ จำเลยวิ่งหนีไปทางไหนไม่ได้เพราะติดฝาเรือน ฝาระเบียงและไม้ตีกั้นระเบียงจำเลยเห็นขวานวางอยู่ที่พื้นระเบียงจึงหยิบตีแกว่งไปแกว่งมา 2 – 3 ทีถูกศีรษะผู้ตายตกไปที่พื้นดินข้างระเบียงล้มลงนอน จำเลยโดดจากระเบียงวิ่งหนีไป ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าผู้ตายได้ใช้มีดแทงจำเลยก่อนเมื่อจำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายได้ไล่ตามจ้องแทงจำเลยอีก การที่จำเลยแกว่งขวานตีไปในขณะที่จำเลยไม่มีทางจะหนีไปได้เช่นนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ทำไปเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share