คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บเสื้อผ้าตามประกาศคณะกรมการจังหวัด ต่อมามีประกาศรัฐมนตรีเลิกควบคุมผ้า คงควบคุมผ้าในท้องที่นั้น ก็ไม่ทำให้ผู้นั้นพ้นผิดเพราะคำสั่งไม่ใช่กฏหมายจึงมิใช่มีกฏหมายต่างกัน หรือกฏหมายให้ยกเลิกความผิดจำเลยจึงไม่ได้รับการยกเว้นโทษ.
มี พ.ร.ก.ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาควบคุมเครื่องอุปโภค แต่ก่อนยกเลิกนั้นมีพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบัญญัติความผิดอย่างเดียวกันออกใช้ ดังนี้ย่อมไม่เป็นการยกเลิกความผิด.

ย่อยาว

จำเลยต้องหาว่า มีผ้าแล้วไม่แจ้งปริมาณและสถาานที่เก็บตามประกาศของคณะกรมการจังหวัด และขายผ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาล+ั้นต้นเห็นว่า โจทก์มาฟ้องเมื่อมีประกาศยกเลิกกการควบคุมแล้ว ย่อมมีผลยกเลิกด้วยตามกฏหมายลักษณะอาญา ม. ๘ จึงให้งดสืบพะยานแล้วยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยเห็นว่า คดีอนุโลยเข้าตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๓๙(๕).
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห้ฯว่า ประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และมหาดไทยให้ยกเลิกการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคแลของอื่นๆในต่างจังหวัด คงควบคุมฉะเพราะจังหวัดพระนครและธนบุรีนั้น หาใช่กฏหมายยกเลิกความผิดไม่และจะอ้างกฏหมายลักษณะอาญา มาตรา ๘ ให้จำเลยพ้นผิดไม่ได้ ข้อที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามี พ.ร.ก.ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ควบคุมเครื่องอุปโภคฯนั้นก็ปรากฏว่า ก่อนยกเลิกได้มี พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภค ฯ บัญญัติความผิดอย่างเดียวกันออกใช้วแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยกเลิกความผิด
จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป แล้วพิพากษาใหม่.

Share